รีวิวจากลูกค้า ( Review ) แบ่งปันภาพสวย ๆ ในช่วงเวลาแห่งความสุข #โดนใจ

ส่วนลด สถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำ เมืองพัทยา
ส่วนลด สถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำ เมืองพัทยา
ส่วนลด สถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำ เมืองเชียงใหม่
ส่วนลด ล่องเรือเจ้าพระยา พร้อมดินเนอร์แบบบุฟเฟต์
ส่วนลด โรงแรม & รีสอร์ท ทั่วประเทศไทย
Hot Promotions of the monthly
 

..... เลย .....

เมืองแห่งทะเลภูเขา  ......   สุดหนาวในสยาม

 
 

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ อุทยานแห่งชาติภูกระดึง

        อุทยานแห่งชาติภูกระดึง     

 
 

ข้อมูลทั่วไป

จังหวัดเลยเมืองท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่โอบล้อมด้วยภูเขาสลับซับซ้อนท่ามกลางสายหมอกปก คลุมเหนือยอดภู อุดมไปด้วยพืชพรรณป่าไม้นานาชนิดที่รู้จักกันดีคือ ภูกระดึง ภูหลวงและภูเรือ อากาศอันเย็นสบาย ภูมิประเทศที่งดงาม ประเพณีวัฒนธรรมอันแตกต่างไปจากถิ่นอื่นซึ่งได้แก่การละเล่นผีตาโขน ที่รอคอยนักเดินทางมาสัมผัสเมืองแห่งขุนเขาดินแดนมหัศจรรย์แห่งนี้

 
       
 

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ รูปแผนที่ เลย

ขอบคุณภาพจาก NovaBizz

 
 

เลยอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 520 กิโลเมตร มีพื้นที่ 11,424 ตารางกิโลเมตร เป็นจังหวัด ชายแดนที่ตั้งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ริมฝั่งแม่น้ำโขงในแนวเทือกเขาเพชรบูรณ์ ในอดีตนั้นเป็นเพียง ชุมชนเล็ก ๆ ของอาณาจักรที่มีความรุ่งเรืองควบคู่กับกรุงศรีอยุธยาของไทย ภายหลังอาณาจักรล้านช้างเริ่มอ่อนแอลง จึงมาขึ้นอยู่กับกรุงศรีอยุธยา ต่อมาชุมชนนี้ได้รับการยกฐานะเป็นเมืองเลยในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จังหวัดเลยแบ่งการปกครองออกเป็น 14 อำเภอ คือ อำเภอเมืองเลย วังสะพุง ปากชม เชียงคาน ท่าลี่ ภูเรือ ด่านซ้าย ภูกระดึง นาแห้ว นาด้วง ภูหลวง ผาขาว เอราวัณ และหนองหิน

อาณาเขต

ทิศเหนือ  ติดต่อกับประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

ทิศใต้      ติดต่อกับจังหวัดขอนแก่น และจังหวัดเพชรบูรณ์

ทิศตะวันออก         ติดต่อกับจังหวัดหนองคาย จังหวัดหนองบัวลำภู และจังหวัดขอนแก่น

ทิศตะวันตก           ติดต่อกับจังหวัดพิษณุโลก

ทิปส์ท่องเที่ยว

เที่ยวอุทยานแห่งชาติภูกระดึงต้องเดินเท้าเป็นระยะทางไกลมาก และพื้นที่มีความสูงชัน นักท่องเที่ยวจึงควรเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนเดินทางไป

ขี่จักรยานเที่ยวในเมืองเชียงคาน ควรเลือกเช่าจักรยานเสือภูเขา หรือจักรยานที่มีเกียร์ทดแรง เนื่องจากสภาพพื้นที่ของเมืองเป็นเนินเขาและภูเขา ซึ่งในบางบริเวณมีความสูงชันมาก จักรยานธรรมดาไม่สามารถขึ้นได้

การเดินป่าในอุทยานแห่งต่างๆ ของจังหวัดเลย ควรเตรียมถุงกันทากไปด้วย โดยเฉพาะในหน้าฝน เพราะสภาพป่ามีความชื้นสูงจึงมีทากจำนวนมาก รวมทั้งควรเตรียมเสื้อกันหนาวไปด้วยในทุกฤดู เพราะอากาศค่อนข้างหนาวเย็น  ถ้าอยากชมความงามของแก่งคุดคู้ควรไปในช่วงฤดูร้อนที่ระดับน้ำลดจนมองเห็นเกาะแก่งสวยงาม

บริเวณริมสองข้างทางไปยังแก่งคุดคู้และที่ตลาดริมแก่ง มีร้านขายมะพร้าวแก้วจำนวนมาก การเลือกซื้อควรให้แม่ค้าตักมะพร้าวที่เพิ่งทำเสร็จ บรรจุใส่ถุงให้ใหม่ตามปริมาณที่ต้องการ เนื่องจากมะพร้าวในถุงที่บรรจุไว้อยู่แล้วอาจเป็นของเก่า

ที่พัก

จังหวัดเลยมีโรงแรมขนาดกลาง โรงแรมขนาดเล็ก และรีสอร์ต จำนวนมากในอำเภอเมืองฯ อำเภอด่านซ้าย อำเภอเชียงคาน อำเภอภูเรือ อำเภอปากชม และอำเภอนาแห้ว ราคาห้องพักเริ่มตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลายพันบาท ขึ้นอยู่กับประเภทของห้องพักและที่ตั้ง นอกจากนี้ บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงในอำเภอเชียงคานก็มีเกสต์เฮาส์ราคาถูกจำนวนมาก

ในอำเภอด่านซ้ายและอำเภอเชียงคานมีที่พักแบบโฮมสเตย์ ดำเนินการโดยชาวบ้านที่รวมกลุ่มกันจัดการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ โดยยังคงรูปแบบวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ และวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมไว้ให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้และสัมผัสอย่างใกล้ชิด โฮมสเตย์เหล่านี้มีบริการที่พัก อาหาร และนำเที่ยว ในราคาที่ไม่แพง

นอกจากนี้เลยยังมีอุทยานแห่งชาติหลายแห่งที่มีบริการบ้านพัก จุดกางเต็นท์ และเต็นท์ให้เช่าในราคาย่อมเยา สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบและต้องการใกล้ชิดธรรมชาติเป็นพิเศษ รวมทั้งผู้ที่นิยมการพักผ่อนในบรรยากาศแบบแค้มปิ้งด้วย เช่น อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย อุทยานแห่งชาติภูกระดึง อุทยานแห่งชาติภูเรือ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง สอบถามรายละเอียดได้ที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

สถานที่ท่องเที่ยว

จังหวัดเลยมีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่มีชื่อเสียงมากมายและหลากหลายรูปแบบ เช่น อุทยานแห่งชาติภูเรือ อุทยานแห่งชาติภูกระดึง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง แก่งคุดคู้ พระธาตุศรีสองรัก วัดศรีคุณเมือง พระใหญ่ภูคกงิ้ว หมู่บ้านวัฒนธรรมไทยดำ ศูนย์หัตถกรรมปั้นหม้อบ้านโค้งสวรรค์ ศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดเลย สะพานมิตรภาพน้ำเหือง ไทย-ลาว ฯลฯ

กิจกรรมท่องเที่ยว

จังหวัดเลยมีทรัพยากรในด้านการท่องเที่ยวมากมายและหลากหลายรูปแบบ มีกิจกรรมท่องเที่ยวทั้งทางธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมประเพณี โดยมีกิจกรรมที่โดดเด่น เช่น พิชิตยอดภูกระดึง ชมทะเลหมอกที่ภูเรือ เดินป่าศึกษาธรรมชาติและประวัติศาสตร์ ขี่จักรยาน เที่ยวถ้ำ เที่ยวน้ำตก ร่วมชมขบวนแห่ผีตาโขนและผีขนน้ำ เป็นต้น

อาหารและเครื่องดื่ม

อาหารการกินในจังหวัดเลยมีให้เลือกมากมาย ทั้งอาหารตามสั่ง อาหารจานเดียว สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบลิ้มรสอาหารท้องถิ่น ร้านอาหารในตัวเมือง ในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ และในตลาดสด มีอาหารพื้นเมืองหลายเมนูให้ลองชิม

สำหรับสถานบันเทิงแนวไนต์ไลฟ์นั้น ในตัวเมืองเลยมีผับหลายแห่งเปิดให้บริการ รวมทั้งในโรงแรม รีสอร์ตส่วนใหญ่ ก็มีผับ บาร์ ที่น่าไปนั่งจิบเครื่องดื่ม พร้อมฟังดนตรีเพราะๆ ในยามค่ำคืน

ช้อปปิ้ง

ตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ มีร้านขายของที่ระลึกที่มีสินค้าของฝากประจำจังหวัดให้เลือกซื้อตามความชอบ ที่ไม่น่าพลาดคือสินค้าโอทอป ซึ่งมีทั้งงานศิลปหัตถกรรมประจำท้องถิ่นและผลผลิตทางการเกษตรที่นำมาแปรรูปได้อย่างน่าสนใจ

พระใหญ่ภูคกงิ้ว

สถานที่เกี่ยวกับศาสนาอื่นๆ

รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว

พระใหญ่ภูคกงิ้ว  เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า พระพุทธนวมินทรมงคลลีลาทวินคราภิรักษ์ ตั้งอยู่ที่ภูคกงิ้ว บ้านท่าดีหมี ตำบลปากตม ประดิษฐานอยู่บนเนินเขาบริเวณปากลำน้ำเหืองจรดกับแม่น้ำโขง เป็นพระพุทธรูปปางลีลาประทาน พร หล่อด้วยไฟเบอร์ผสมเรซิ่นสีทองทั้งองค์ สูง 19 เมตร ตัวฐานกว้าง 7.2 เมตร สร้างขึ้นโดยกองทัพภาคที่ 2 และประชาชน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า พระบรม ราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครบ 6 รอบ และในมหา มงคลแห่งราชพิธีราชาภิเษก ครบ 50 ปี

พระใหญ่ภูคกงิ้ว ตั้งอยู่ในบริเวณที่เป็นผืนดินแห่งแรกของอีสานที่แม่น้ำโขงไหลผ่าน โดยมี “แม่น้ำเหือง” แม่น้ำอีก สายที่เป็นพรมแดนธรรมชาติกั้นระหว่าง สปป.ลาว กับไทย ซึ่งตรงบริเวณที่แม่น้ำเหืองไหลมาบรรจบกับแม่น้ำโขง นั้นจะเห็นเป็นแม่น้ำสอง สี ที่มีสีเข้ม-อ่อนต่างกันอย่างชัดเจน สามารถมองเห็นทัศนียภาพของแม่น้ำโขงในมุมสูง เป็นจุดที่มีความสวยงามไม่แพ้ที่ไหนๆ ถ้าหากมีโอกาสไปเที่ยวที่อำเภอเชียงคานแล้วอย่าลืมแวะ มาสักการะพระใหญ่ภูคกงิ้วเพื่อความเป็นสิริมงคล

การเดินทางไปพระใหญ่ภูคกงิ้ว

จากตลาดเชียงคานผ่านสามแยกเชียงคานแล้วตรงเข้าทางหลวงหมายเลข 2195 ไปทาง อ.ท่าลี่ประมาณ 20 กม. ถึงบ้านท่าดีหมี แล้วให้เลี้ยวขวาบริเวณ ร.ร.บ้านท่าดีหมี เข้าไปประมาณ 2 กม. ถึงองค์พระพุทธรูป ระหว่างทางไป ยังพระใหญ่ภูคกงิ้ว ถนนไม่ค่อยดีนัก และไม่มีที่จอดรถ ต้องจอดรถบริเวณไหล่ทาง ไม่มีรถโดยสารวิ่งผ่าน หากต้องการมาที่นี่ต้องเช่าเหมารถจากตัวเมืองเชียงคาน

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ภูลมโล

ดอยและภูเขาทุ่งดอกไม้

รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว

ภูลมโล ตั้งอยู่ในตำบลกกสะทอน  อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย ในเขตอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ภูลมโลเป็นภูเขาที่ตั้งอยู่บนรอยต่อ ของสามจังหวัด คือ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และเลย สิ่งที่ทำให้ภูลมโลเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวในเวลานี้ คือ เป็นจุดชมดอกนางพญาเสือโคร่งที่มีพื้นที่กว้างขวางนับ 1000 ไร่  นางพญาเสือโคร่งของภูลมโลจะไม่ได้มีให้ชมเพียงจุดเดียว แต่จะกระจายมีให้ชมในหลายจุดโดยจะบานแทรกตัวอยู่ในหุบเขา ป่าไม้และต้นหญ้า ภูลมโลเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีธรรมชาติ ที่สวยงามของขุนเขา และอากาศที่หนาวเย็นโดยนางพญาเสือโคร่งจะบานในช่วงเดือน ม.ค. ของทุกปี ทั้งนี้ในแต่ละปีจะบานไม่ตรงกัน ก่อนเดินทางต้องเช็คข้อมูลอีกครั้ง

นอกจากชมนางพญาเสือโคร่งแล้ว พื้นที่ของภูลมโลมีสามารถยืนชมทัศนียภาพของเทือกเขาสูงซ้อนทับกันสวยงามมาก จุดกางเต้นท์ มองเห็นหมู่บ้านหมันขาว และไร่กระหล่ำปลีสีเขียวกว้างใหญ่  สามารถดูดาวบนฟ้า และดาวบนดินแสงไฟจากหมู่บ้านข้างล่างได้อย่าง ชัดเจนนอกจากนี้ก่อนถึงจุดกางเต้นท์มีจุดชมวิวสุงสุดให้ได้ชมทัศนียภาพได้กว้างไกลยิ่งขึ้น สำหรับบนยอดสูงสุดภูลมโลนั้นมีทางเดิน เขาขึ้นไปประมาณ 1 กม. ทางค่อนข้างชัน บนจุดชมวิวมีชะง่อนหินเล็กๆ เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น ส่วนจุดชมพระอาทิตย์ตกอยู่บนเส้นทางเดินขึ้น ซึ่งเมื่อมองลงมาเบื้องล่างจะพบกับทิวทัศน์ความงดงามของแนวยอดภูลมโลและเทือกเขาอื่นๆ หรือหากใครไม่ขึ้นไปบนจุดชมวิวสูงสุด ก็สามารถชมวิวอยู่ตรงทางเดินขึ้นไปยังจุดชมวิวก็ได้ซึ่งก็สวยงดงามเช่นกัน

รายละเอียดการเดินทางไปภูลมโล

การขึ้นภูลมโลในเส้นทางที่ใกล้ที่สุด คือ ทางบ้านร่องกล้า จ.พิษณุโลก นักท่องเที่ยวสามารถเดินทาง ขึ้นภูลมโลแบบไปเช้าเย็นกลับ ขึ้นทางบ้านร่องกล้าเส้นทางจะใกล้และค่ารถถูกกว่าใช้เวลาเพียง 45 นาที สามารถติดต่อรถนำเที่ยวได้ที่ กลุ่มท่องเที่ยวชุมชนบ้านร่องกล้าด้านหน้าหมู่บ้านตรงหลักกิโลใหญ่ มีรถออกตลอดโดยเริ่มให้บริการตั้งแต่ตี 5 ไปจนถึงเย็น ราคา 800-1200 บาทต่อคัน โดยใช้เวลาท่องเที่ยวประมาณ 2-4 ชั่วโมง แล้วแต่ว่าจะถ่ายภาพแต่ละจุดนานขนาดไหน

เตรียมตัวก่อนเดินทาง

เส้นทางขึ้นภูลมโลเป็นเส้นทางเป็นดินแดงมีหลุมร่องเป็นระยะไม่ควรใช้รถเก๋งขึ้นไป ต้องใช้รถกระบะหรือรถขับเคลื่อน 4 เท่านั้น ควรเตรียมผ้ากันฝุ่นให้พร้อมเพราะฝุ่นเยอะ อากาศข้างบนภูลมโลหนาวมากและลมพัดแรงตลอดทั้งวัน ให้เตรียมอุปกรณ์กันหนาว และกันลมและฝุ่นไปให้พร้อม

ที่พักบนภูลมโล

บนภูลมโลไม่อนุญาติให้ค้างคืน นักท่องเที่ยวที่ไม่ได้พักบนภูลมโลอาจเลือกพักในบริเวณใกล้เคียงของทางขึ้นทั้งสองทาง เช่น ถ้าหากขึ้นทางฝั่งบ้านร่องกล้า อาจเลือกพักที่โฮมสเตย์ในหมู่บ้านร่องกล้าซึ่งมีหลายหลัง หรืออาจพักในบริเวณใกล้เคียง เช่น พักบ้านพักอุทยานแห่งชาติ ภูหินร่องกล้า หรือ ภูทับเบิก หากขึ้นทางฝั่งกกสะทอน  อ.ด่านซ้าย ก็สามารถหาที่พักในอ. ภูเรือ หรือด่านซ้าย หรือที่พักโฮมเสตย์ของ ชมรมท่องเที่ยวกกสะทอน

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ภูป่าเปาะ ฟูจิเมืองไทย

ดอยและภูเขา

รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว

ภูป่าเปาะ ตั้งอยู่ที่บ้านผาหวาย ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูค้อ-ภูกระแต ซึ่งห่างจากสวนผาหินงามหรือคุนหมิงเมืองไทยประมาณ 7 กิโลเมตร เป็นจุดชมวิวที่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 900 เมตร บนภูป่าเปาะนั้นมีจุดชมวิวอยู่ด้วยกัน 4 จุด โดยจุดชมวิวแต่ละจุดมีระยะทางห่างกันประมาณ 200 เมตร

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

วัดถ้ำผาปู่ หรือ ถ้ำเพียงดิน

วัด

รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว

วัดถ้ำผาปู่ หรือถ้ำเพียงดิน ภายในวัดมีพระธาตุบรรจุอัฐิของหลวงปู่คำดี ปภาโส ผู้ค้นพบวัดแห่งนี้ บริเวณวัดมีลักษณะเป็นโพรงถ้ำขนาดใหญ่อยู่ใต้ภูเขาหิน มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ภายในถ้ำ และมีหินงอก หินย้อย นอกถ้ำเป็นแหล่งอาศัยของค่างแว่น ชะนี และลิง การเดินทาง ใช้เส้นทางเลย-เชียงคาน ออกจากตัวเมืองเลยไปประมาณ  7 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายไปทางอำเภอท่าลี่ 3 กิโลเมตร

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สวนหินผางามหรือคุนหมิงเมืองเลย

สวนและสวนสาธารณะ

รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว

สวนหินผางามหรือ คุนหมิงเมืองเลย แนวผาหินปูนสูงใหญ่แลดูเป็นสง่า ทอดตัวเป็นแนวยาว โดดเด่นท่ามกลางทุ่งหญ้าเขียวขจี พื้นที่บริเวณนี้คือที่ตั้งของ สวนหินผางาม เมืองเลย ภายในมีเส้นทางเดินสลับซับซ้อน บางช่วงดูลึกลับตื่นเต้นคล้ายกับผจญภัยอยู่ในเขาวงกต บางช่วงต้องปีนป่ายเพิงหิน หรืออาจต้องมุดลอดโพรงถ้ำ นอกจากนี้ตลอดเส้นทางยังมีโอกาสพบเห็นต้นไม้หายาก และต้นไม้ยักษ์ อย่างปรงเขาที่มีอายุหลายร้อยปี สวนหินแห่งนี้จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า “คุนหมิงเมืองเลย”

สวนหินแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่บ้าน ผางาม หมู่ 10 ตำบลปวนพุ กิ่งอำเภอหนองหิน แยกจากทางหลวงสายเมืองเลยชุมแพ ช่วงระหว่างอำเภอวังสะพุงกับภูกระดึง เข้าไปทางทิศตะวันตกตามถนนลาดยางตลอดสาย ผ่านหมู่บ้านต่างๆ ประมาณ 15 กม. จะมีป้ายบอกทางตลอดทางจนถึงบริเวณทุ่งหญ้าพื้นที่กว้างพอสมควร มีภูเขาแท่งหินปูน ซึ่งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ อยู่กระจายเป็นลูกๆ ใหญ่บ้างเล็กบ้าง สลับกันไป บางลูกก็สามารถเดินผ่านทะลุได้ จะมีชื่อเรียกต่างๆ กันตามลักษณะรูปร่างที่ปรากฎ เช่น หินไดโนเสาร์ หน้าผาท้อแท้ ซุ้มคารวะ ถ้ำอรทัย เขาวงกต เจดีย์หิน กรอบรูปธรรมชาติ กำแพงเมืองจีน ประตูโขง หินมงกุฎ สวนหิน ซุ้มนรก รูรันตู (รูตัน) มีต้นไม้นานาพันธ์ขึ้นแซม ซึ่งพบต้นไม้หายากและต้นไม้ยักษ์อย่างปรงเขาที่มีอายุหลายร้อยปี จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า คุนหมิงเมืองเลย สันนิษฐานกันว่าในอดีตเคยเป็นพื้นของท้องทะเลมาก่อน และมีอายุมากว่า 225 ล้านปี ภายในมีทางเดินสลับซับซ้อน บางช่วงดูลึกลับน่าตื่นเต้นคล้ายกับผจญภัยอยู่ในเขาวงกต บางช่วงต้องปีนป่ายเพิงหิน หรืออาจต้องมุดลอดโพรงถ้ำ

สวนหินผางาม

ในบริเวณ มีสถานีบริการนักท่องเที่ยว ที่จอดรถ ห้องน้ำ ร้านขายของที่ระลึก และร้านอาหารให้บริการแก่นักท่องเที่ยว ที่สถานีบริการนักท่องเที่ยวมีบริการนำทาง และให้คำบรรยาย ค่าบริการเพียง 100 บาทต่อนักท่องเที่ยวหนึ่งคณะ มีจุดชมวิวเพื่อถ่ายภาพยอดเขา คุนหมิงเมืองเลย ไว้เป็นที่ระลึก หลังจากนั้นเดินลงบันไดทางด้านหลังเขา ซึ่งเป็นบริเวณที่ตั้งของร้านค้า ฝั่งตรงข้ามจะปากทางเข้าถ้ำลอด ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นการเดินท่องเที่ยวศึกษาธรรมชาติอีกเส้นทางหนึ่ง ซึ่งมีสถานที่น่าสนใจหลายแห่ง ได้แก่ อุโมงค์ลานเพลิน 7 สี ป่าเฟิร์นที่บรรยากาศร่มรื่นเย็นสบาย หินยาย หินตา ซึ่งตั้งชื่อตามลักษณะที่ปรากฏอีกเช่นกัน

ตั้งอยู่ที่บ้านผางาม หมู่ 10 ตำบลปวนพุ จากกิ่งอำเภอหนองหินเข้าไปประมาณ 18 กิโลเมตร

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

หมู่บ้านวัฒนธรรมไทดำ

หมู่บ้าน ชุมชน

รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว

ไทดำ บ้านนาป่าหนาด เป็นกลุ่มชาวไทกลุ่ม หนึ่งที่เคยตั้งรกรากอยู่ในเมืองไทดำ บริเวณลุ่มแม่น้ำดำและแม่น้ำแดงในเขตเวียดนามเหนือ เมื่อปี พ.ศ.2425 สมัยสงครามฮ่อ และหลังจากสงครามยุติลง ไทดำส่วนหนึ่งจึงได้อพยพผ่านเข้ามาสู่ประเทศไทย กลุ่มหนึ่งที่เรารู้จักกันดีก็คือ “ไทดำ” หรือ “ลาวโซ่ง” ที่อยู่ในเขตจังหวัดเพชรบุรี ส่วนหนึ่งจะอาศัยอยู่ทางภาคกลาง ส่วนกลุ่มสุดท้ายก็อาศัยอยู่ที่บ้านนาป่าหนาด จังหวัดเลย นี่เอง นอกจากนี้ ไทดำที่อพยพเข้ามายังบ้านนาป่าหนาดแห่งนี้ ส่วนใหญ่ยังเป็นไทดำชนชั้นราชวงศ์แทบทั้งสิ้นอีกด้วย

เมื่อเดินทางมาถึง นอกจากการเยี่ยมชมวิถีชีวิตและสภาพบ้านเรือนของชาวไทดำที่ สร้างมากว่าร้อยปีแล้วนั้น จุดที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะกันก็คือ “หมู่บ้านวัฒนธรรมไทดำ” ซึ่งตั้งอยู่บริเวณ บ้านนาป่าหนาด หมู่ที่ 4 ที่นี่เราจะพบกับบ้านจำลองที่สร้างขึ้นตามรูปแบบของชาวไทดำในอดีต โดยตัวบ้านจะสร้างแบบเรือนเครื่องผูก หลังคามุงด้วยหญ้าคาหรือแฝก ใต้ถุนสูง ซึ่งภายในบ้านจะแบ่งออกเป็นห้อง ๆ ไล่มาตั้งแต่บันไดบ้านด้านหน้า ที่จะขึ้นได้แต่เฉพาะผู้ชายเท่านั้น เมื่อขึ้นไปแล้วห้องแรกจะเป็นห้องของผีเรือน ผีปู่ย่า ที่ชาวไทดำนับถือ ถัดมาเป็นห้องโล่งและมีพื้นที่กว้างสุดในบ้าน ใช้สำหรับเป็นห้องนอน โดยในห้องนี้จะมีเตาไฟวางไว้ปลายเท้าของเจ้าบ้าน เพื่อให้ความอบอุ่นแก่สมาชิกทุกคนในครอบครัวด้วย ถัดไปซึ่งเป็นส่วนสุดท้ายของตัวบ้าน จะเป็นที่ประกอบอาหาร โดยมีบันไดที่ใช้เป็นทางขึ้นลงสำหรับผู้หญิงชาวไทดำด้วย

นอกจากนี้บริเวณใต้ถุนบ้านที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งนี้ ยังมีกลุ่มสตรีสหกรณ์ชาวไทดำนั่งรวมตัวกันทำผ้าทอมือแบบโบราณ หลังว่างเว้นจากการทำนา เพาะปลูก ให้ได้ชมกัน ซึ่งขอบอกว่าพลาดไม่ได้เลย เพราะผ้าทอมือหรือที่ชาวไทดำเรียกว่า “ซิ่นนางหาญ” มรดกตกทอดที่ทำสืบต่อกันมากว่า 100 ปีนั้น มีลวดลายที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างมาก ซึ่งซิ่นนางหาญนี้ มีตำนานที่เล่าสืบต่อกันมาอย่างน่าสนใจว่า

มีหญิงไทดำ 3 พี่น้องตั้งใจที่จะทอผ้าซิ่นขึ้นมาผืนหนึ่ง โดยหญิงคนแรกเป็นผู้คิดค้นการมัดลายและทำการทอ แต่ทอยังไม่ทันแล้วเสร็จก็ได้เสียชีวิตลง หญิงคนที่สองจึงได้ทอต่อ และในระหว่างทอก็เสียชีวิตตามกันไปเป็นคนที่สอง หญิงคนที่สามจึงได้บอกกล่าวผีเรือนว่า หากทอซิ่นผืนนี้สำเร็จ เมื่อมีการเสนเรือน (การเสนเรือน หมายถึง พิธีเซ่นไหว้ผีเรือนของชนเผ่าไทดำ) จะใส่สำรับให้ ทำให้หญิงคนที่สามทอซิ่นผืนดังกล่าวได้สำเร็จ ตั้งแต่นั้นมาชาวไทดำจึงนิยมใช้ซิ่นนางหาญในการประกอบพิธีเสนเรือนเรื่อยมา จนถึงปัจจุบัน

ซึ่งคำว่า “นางหาญ” ที่ชาวไทดำ บ้านนาป่าหนาด เรียกกันนั้น ก็หมายถึงความกล้าหาญ ความเด็ดเดี่ยว ของหญิงในตำนานคนที่สาม ที่กล้าทอผ้าซิ่นผืนดังกล่าวได้จนสำเร็จนั่นเอง

นอกจากนี้ที่ศูนย์วัฒนธรรมฯ ดังกล่าว ยังมีผังตัวอักษรไทดำที่ เขียนบันทึกไว้สำหรับให้ผู้สนใจและนักท่องเที่ยวได้ศึกษา พร้อมทั้งซื้อหาของฝากฝีมือกลุ่มสตรีสหกรณ์ชาวไทดำ อาทิเช่น ผ้าทอมือ สบู่สมุนไพร ดอกไม้ประดิษฐ์ที่ทำจากไหมพรมหลากสี ติดไม้ติดมือกลับไปในราคาที่ไม่แพงอีกด้วย

เบอร์ติดต่อ : สมาคมอนุรักษ์วัฒนธรรมไทดำ โทร 081 048 2000 / การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเลย โทร. 0-4281-2812/0-4281-1405

เวลาทำการ : 9.00-21.00 น.

ช่วงเวลาแนะนำ : ตลอดทั้งปี

ไฮไลท์ : การสาธิตวิธีการทอผ้าแบบชาวไทดำ และการเรียนรู้ตัวอักษร ภาษาไทดำ

กิจกรรม : ชมวิถีชีวิตของชาวไทดำ ชมการสาธิตการทอผ้า และชมบ้านจำลองที่สร้างตามแบบบ้านโบราณในอดีต

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สะพานมิตรภาพน้ำเหือง ไทย-ลาว

แลนด์มาร์กและอนุสรณ์สถาน

รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว

สะพานมิตรภาพน้ำเหือง ไทย-ลาวตั้งอยู่ที่บ้านนากระเซ็ง เป็นสะพานข้ามแม่น้ำเหือง เชื่อมระหว่างไทย-สปป ลาว สะพานี้สามารถเดินทางผ่านไชยะบุรี สู่เมืองมรดกโลก คือ หลวงพระบางใต้ ระยะทาง 363 กม. หรือเดินทางข้ามไปท่องเที่ยวและซื้อสินค้าปลอดภาษี บริเวณร้านค้าใกล้สะพานฝั่ง สปป.ลาวได้

สะพานมิตรภาพน้ำเหืองไทย-ลาว ได้มีพิธีเปิดใช้อย่างเป็นทางการ เมื่อ 16 น.วันพฤหัสบดีที่ 28 ต.ค.2547 โดย ดร.สุรเกียรติ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย และนายสมสะหวาด เล่งสะหวัด รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวร่วมกัน เป็นประธาน

นี่คือเส้นทางสายใหม่ที่อีกไม่นานก็จะเป็นเส้นทางลัดไปสู่เมืองมรดกโลกหลวงพระบางสำหรับชาวไทย และเป็นเส้นทางลัดสู่ “บางกอก” สำหรับชาวลาว

การเดินทาง ใช้เส้นทางเลย-ท่าลี่ ระยะทาง 47 กม. เมื่อถึงตัวอำเภอเลี้ยวขวาประมาณ 2 กม. ถึงพระธาตุสัจจะให้เลี้ยวขวาไปอีกประมาณ 7 กม.

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำหมาน (ห้วยกระทิง)

เขื่อน พื้นที่อนุรักษ์ ทะเลสาบ

รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว

อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำหมาน เป็นแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดเลยแห่งหนึ่งซึ่งอาจจะถูกมองข้ามไปโดยนักท่องเที่ยวต่างถิ่นส่วนใหญ่ ส่วนคนท้องถิ่นชาวจังหวัดเลยนั้นจะรู้จักอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำหมานในฐานะสถานที่ชมพระอาทิตย์ตกอันสวยงามและแหล่งรับประทานอาหารปลาสดรสเลิศ นอกเหนือไปจากกิจกรรมสองอย่าง อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำหมานมีการล่องแพในยามเช้าเพื่อชมทิวทัศน์รอบอ่างเก็บน้ำขณะพระอาทิตย์ขึ้น โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่คุณจะสามารถพบกับไอหมอกบางๆ ซึ่งเกิดจากแสงอันอบอุ่นของดวงอาทิตย์ส่องสาดมาตกกระทบกับผืนน้ำอันเยียบเย็นก่อให้เกิดการกลั่นตัวของไอน้ำในอากาศเหนืออ่างเก็บน้ำกลายเป็นหมอกจางๆ สีขาวนวลปกคลุมไปทั่วพื้นผิวน้ำในยามเช้า งดงามเกินคำบรรยาย

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 
 

อำเภอเชียงคาน

หมู่บ้าน ชุมชน

รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ เชียงคาน

 
 

ประวัติความเป็นมาเมืองเชียงคานเดิมตั้งอยู่ที่เมืองชะนะคาม ประเทศลาว ซึ่งสร้างโดยขุนคาน โอรสของขุนคัวแห่งอาณาจักรล้านช้าง เมื่อประมาณ พ.ศ. 1400 ต่อมาประมาณ พ.ศ. 2250 อาณาจักรล้านช้างแยกออกเป็นสองอาณาจักรคือ อาณาจักรหลวงพระบาง ซึ่งมีพระเจ้ากีสราชเป็นกษัตริย์ และอาณาจักรเวียงจันทน์ ซึ่งมีพระเจ้าไชยองค์เว้เป็นกษัตริย์ โดยกำหนดอาณาเขตให้ดินแดนเหนือแม่น้ำเหืองขึ้นไปเป็นอาณาเขตหลวงพระบาง และใต้แม่น้ำเหืองลงมาเป็นอาณาเขตเวียงจันทน์ ต่อมาทางหลวงพระบางได้สร้างเมืองปากเหืองซึ่งอยู่ฝั่งขวาของแม่น้ำโขงเป็นเมืองหน้าด่านและทางเวียงจันทน์ได้ตั้งเมืองเชียงคาน

เดิมเป็นเมืองหน้าด่านเช่นกัน ต่อมา พ.ศ. 2320 พระเจ้ากรุงธนบุรี โปรดให้เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกกับพระสุรสีห์ ยกทัพไปตีกรุงเวียงจันทน์ ตีเวียงจันทน์ได้จึงได้อันเชิญพระแก้วมรกต กลับมายังกรุงธนบุรี แล้วได้รวมอาณาจักรล้านช้างเข้าด้วยกันและให้เป็นประเทศราชของไทย และได้กวาดต้อนผู้คนพลเมืองมาอยู่เมืองปากเหืองมากขึ้น แล้วโปรดเกล้าฯ ให้เมืองปากเหืองไปขึ้นกับเมืองพิชัย ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 3 เจ้าอนุวงศ์ เจ้าเมืองเวียงจันทน์ คิดกอบกู้เอกราชเพื่อแยกเป็นอิสระจากไทยโดยยกกำลังจากเวียงจันทน์มายึดเมืองนครราชสีมา แต่ในที่สุดเจ้าอนุวงค์ถูกจับขังจนสิ้นชีวิต กองทัพไทยที่ยกมาปราบเจ้าอนุวงศ์ที่นครราชสีมาได้ยกทัพไปกวาดต้อนผู้คนจากฝั่งซ้ายของลำน้ำโขงมายังเมืองปากเหืองมากขึ้น และโปรดเกล้าฯ ให้พระอนุพินาศ (กิ่ง ต้นสกุลเครือทองศรี) เป็นเจ้าเมืองปากเหืองคนแรก แล้วพระราชทานชื่อเมืองใหม่ว่า เมืองเชียงคาน ครั้งถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พวกจีนฮ่อได้ยกทัพมาตีเมืองเวียงจันทน์ เมืองหลวงพระบางและได้เข้าปล้นสะดมเมืองเชียงคานเดิมที่อยู่ทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง ชาวเชียงคานเดิมจึงอพยพผู้คนไปอยู่เมืองเชียงคานใหม่ (เมืองปากเหือง) เป็นจำนวนมาก

ครั้งต่อมา เห็นว่าชัยภูมิเมืองเชียงคานใหม่ (เมืองปากเหือง) ไม่เหมาะสม ผู้คนส่วนใหญ่จึงอพยพไปอยู่ที่บ้านท่านาจันทร์ซึ่งใกล้กับที่ตั้งของอำเภอเชียงคานปัจจุบัน แล้วตั้งชื่อใหม่ว่า เมืองใหม่เชียงคาน ต่อมาไทยได้เสียดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงให้กับฝรั่งเศส ทำให้เมืองปากเหืองตกเป็นของฝรั่งเศส คนไทยที่อยู่เมืองปากเหืองจึงอพยพมาอยู่เมืองใหม่เชียงคานหรืออำเภอเชียงคานปัจจุบันโดยสิ้นเชิง แล้วได้เปลี่ยนชื่อเมืองเป็นเมืองเชียงคานใหม่ ได้ตั้งที่ทำการอยู่บริเวณวัดธาตุ เรียกว่าศาลาเมืองเชียงคาน ต่อมาได้ย้ายไปอยู่บริเวณวัดโพนชัย จนกระทั่งปี พ.ศ. 2452 เมืองเชียงคานซึ่งมีพระยาศรีอรรคฮาด (ทองดี ศรีประเสริฐ) ได้รับตำแหน่งนายอำเภอเชียงคานคนแรก ต่อมาปี 2484 ได้ย้ายที่ว่าการอำเภอเชียงคานมาอยู่ ณ ที่อยู่ปัจจุบันตราบเท่าทุกวันนี้

ลักษณะภูมิอากาศแบ่งออกเป็น 3 ฤดู คือ ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่เดือน มีนาคม ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่เดือน มิถุนายน และฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่เดือน ตุลาคม

มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ ได้แก่

    1. แก่งคุดคู้ บ้านน้อย หมู่ที่ 4 ตำบลเชียงคาน

    2. วัดพระพุทธบาทภูควายเงิน บ้านผาแบ่น 6 หมู่ที่ ตำบลบุฮม

    3. จุดชมวิวภูทอก บ้านเชียงคาน หมู่ที่ 2 ตำบลเชียงคาน

    4. จิตรกรรมฝาผนังวัดศรีคูณเมือง วัดศรีคุณเมือง ถนนชายโขง หมู่ที่ 1 ตำบลเชียงคาน

    5. โครงการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ฯ บ้านคกงิ้ว หมู่ที่ 5 ตำบลปากตม

    6. ถ้ำวัดผาแบ่น บ้านผาแบ่น หมู่ที่ 6 ตำบลบุฮม

    7. น้ำตกตาดซ้อ บ้านแก่งมี้ หมู่ที่ 6 ตำบลนาซ่าว

    8. ศูนย์วัฒนธรรมไทดำบ้านนาป่าหนาด บ้านนาป่าหนาด หมู่ที่ 4 และ 12 ตำบลเขาแก้ว

    9. ศูนย์วัฒนธรรมผีขนน้ำบ้านนาซ่าว บ้านนาซ่าว หมู่ที่ 1 ตำบลนาซ่าว

    10. พระพุทธนวมินทรมงคลลีลาทวินคราภิรักษ์ (วัดปากน้ำเหือง)บ้านท่าดีหมี หมู่ที่ 4 ตำบลปากตม

    11. น้ำพุธรรมชาติ วัดน้ำพุ บ้านหินตั้ง หมู่ที่ 6 ตำบลจอมศรี

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 
 

อุทยานแห่งชาติภูกระดึง

ดอยและภูเขาอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า

รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว

 ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ อุทยานแห่งชาติภูกระดึง

 
 

อุทยานแห่งชาติภูกระดึงได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ ลำดับที่ 2 ของประเทศไทย ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลศรีฐาน อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย ลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาหินทรายยอดตัด โดยมีที่ราบบนยอดภูกระดึงประมาณ 60 ตารางกิโลเมตร (37,500 ไร่)

ภูกระดึงมีระดับความสูงอยู่ระหว่าง 400 – 1,200 เมตร จุดสูงสุดอยู่ที่บริเวณคอกเมย มีความสูง 1,316 เมตร สภาพทั่วไปของภูกระดึงประกอบไปด้วยพรรณไม้นานาชนิด พันธุ์สัตว์ป่านานาพันธุ์ หน้าผา ทุ่งหญ้า ลำธาร และน้ำตก อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ต้นน้ำของลำน้ำพองซึ่งเป็นลำน้ำสายสำคัญสายหนึ่งของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ด้วยความสูง บรรยากาศ และสภาพอากาศที่เย็นสบายตลอดปีบนยอดภูกระดึง โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวอุณหภูมิอาจลดต่ำจนถึง 0 องศาเซลเซียส จึงเป็นแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวปรารถนาที่หวังจะเป็นผู้พิชิตยอดภูกระดึงสักครั้งหนึ่งในชีวิต

นักท่องเที่ยวที่ประสงค์จะเข้าไปท่องเที่ยวและพักแรมบนยอดภูกระดึง ขอให้ติดต่อ สอบถาม หรือสำรองการเข้าไปใช้บริการล่วงหน้า ทั้งที่พักประเภทเต็นท์ของอุทยานแห่งชาติและพื้นที่กางเต็นท์สำหรับนักท่องเที่ยวที่นำเต็นท์มาเองตามแผนผังจุดพักแรม ก่อนเดินทางได้โดยตรง ณ อุทยานแห่งชาติภูกระดึง โทรศัพท์หมายเลข 0-42810-833 และหมายเลข 0-42810-834 ในเวลาราชการ (08.00 น.-16.30 น.) ในกรณีที่นักท่องเที่ยวจะเดินทางมาท่องเที่ยวพักแรมบนยอดเขาที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึงนั้น ให้มาติดต่อซื้อค่าบริการบุคคลก่อนเวลา 13.30 น. และในเวลา 14.00 น. ของทุกวันจะทำการปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวเดินขึ้นเขาในแต่ละวัน

ปิดฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน - 30 กันยายน ของทุกปี

เปิดฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม - 31 พฤษภาคม ของทุกปี

 ค่าเข้าชม คนไทยผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท /ชาวต่างชาติผู้ใหญ่ 400 บาท เด็ก 200 บาท อัตราค่าบริการ สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยลด 50 เปอร์เซ็นต์ วันจันทร์-วันศุกร์ ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม-31 ธันวาคม 2558 ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 
 

อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย

อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า

รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว

อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย (นาแห้ว) ตั้งอยู่ในเขตอำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย ครอบคลุมพื้นที่ 3 ตำบล ได้แก่ ตำบลนาแห้ว ตำบลแสงภา ตำบเหลล่ากอหก อำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย มีเนื้อที่ประมาณ 73,225 ไร่ หรือ 117.16 ตารางกิโลเมตร ด้วยสภาพขุนเขาที่สูงสลับซับซ้อนกันในพื้นที่ อำเภอนาแห้ว ประกอบกับเป็นผืนป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ สภาพป่าโดยส่วนใหญ่เป็นป่าดิบชื้น ซึ่งมีที่ราบน้อย จุดที่สูงที่สุดประมาณ 1,408 เมตร จากระดับน้ำทะเล สภาพอากาศค่อนข้างเย็นสบายตลอดปี เนื่องจากความสมบูรณ์ของป่าธรรมชาติซึ่งมีพันธุ์ไม้อยู่หนาแน่น ในช่วงฤดูหนาวอากาศค่อนข้างจะหนาวเย็น

ลักษณะภูมิประเทศ

ภูมิประเทศของอุทยานแห่งชาติเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อนตามแนวชายแดนไทย-ลาว สันเขามีลักษณะเป็นที่ราบสูง มีความลาดเท ตั้งแต่ 2 เปอร์เซ็นต์ จนถึงมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ด้านตะวันตกซึ่งเป็นพื้นที่ป่าผืนใหญ่ จะมีความลาดชันมาก พื้นที่ราบเชิงเขาเกือบจะไม่มี ด้านตะวันออกจะมีความลาดชันน้อย ลาดเทลงไปทางด้านตะวันออกมีที่ราบเชิงเขาอยู่บ้าง พื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ตั้งแต่ 600 - 1,408 เมตร มีภูสันทรายเป็นยอดเขาสูงสุด เป็นแหล่งน้ำน้ำลำธารของแม่น้ำเหือง และ แม่น้ำแพร่

ลักษณะภูมิอากาศ

สภาพอากาศค่อนข้างเย็นสบายตลอดปี เนื่องจากความสมบูรณ์ของป่าธรรมชาติซึ่งมีพันธุ์ไม้อยู่หนาแน่น ในช่วงฤดูหนาวอากาศค่อนข้างจะหนาวเย็น

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 
 

อุทยานแห่งชาติภูเรือ

ดอยและภูเขาอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า

รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว

อุทยานแห่งชาติภูเรือ หนาวสุดในแดนสยาม มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภอภูเรือและอำเภอท่าลี่ จังหวัดเลย อาณาเขตด้านทิศเหนืออยู่ติดกับประเทศลาว รูปพรรณสันฐานของภูเรือ มีรูปร่างลักษณะเหมือน เรือใหญ่บน ยอดดอยสูง เป็นภูผาสีสันสะดุดตา หินบางก้อนมีลักษณะเหมือนถูกปั้นแต่งไว้ ชาวบ้านเรียกว่า “กว้านสมอ” โดยรอบๆ จะเห็นยอดดอยเป็นขุนเขาน้อยใหญ่ใกล้เคียงเป็นฝ้าขาวด้วยละอองน้ำ หมอก ปกคลุมไว้ท่ามกลางป่า อันอุดมสมบูรณ์ มีเนื้อที่ประมาณ 120.84 ตารางกิโลเมตร

พื้นที่ป่าภูเรือประกอบด้วยทิวเขาสูง สลับซับซ้อนเรียงรายเป็นรูปต่างๆ น่าพิศวงสลับกับที่ราบเป็นบางส่วน สาเหตุที่ ขนานนามว่า “ภูเรือ” เพราะมีภูเขาลูกหนึ่งมีชะโงกผายื่นออกมาดูคล้ายสำเภาใหญ่ และที่ราบบนยอดเขา มีลักษณะคล้ายท้องเรือตลอดจนมีธรรมชาติและทิวทัศน์ที่สวยงาม เหมาะสมที่จะจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ

ลักษณะภูมิประเทศ

อุทยานแห่งชาติภูเรือ มีลักษณะภูมิประเทศเป็นทิวเขาสูงสลับซับซ้อนประกอบด้วย เขาหินทรายเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนั้นเป็นหินแกรนิตสลับกันไป ลักษณะเช่นนี้จึงทำให้มีที่ราบสูงสลับกับ ยอดเขาสูงทั่วไป มียอดเขาสูง ที่สุดคือ ยอดภูเรือ มีความสูงถึง 1,365 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ยังมียอดเขาที่สำคัญ คือ ยอดเขาภูสัน มีความสูง 1,035 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง และยอดภูกุ มีความสูง 1,000 เมตรจากระดับ น้ำทะเล ปานกลาง ลักษณะเช่นนี้เองจึงเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารที่สำคัญก่อให้เกิดลำธารหลายสาย เช่น ห้วยน้ำด่าน ห้วยบง ห้วยเกียงนา ห้วยทรายขาว ห้วยติ้ว และห้วยไผ่ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของน้ำตกห้วยไผ่ที่สวยงามแห่งหนึ่ง

ลักษณะภูมิอากาศ

ด้วยอุทยานแห่งชาติภูเรืออยู่ที่จังหวัดเลย ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีอากาศหนาวเย็นที่สุดของประเทศไทย และอยู่บน ยอดเขาสูง จึงทำให้มีอากาศเย็นตลอดปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวจะหนาวเย็นมาก จนกระทั่งน้ำค้างบนยอดหญ้า จะแข็งตัวกลายเป็นเกล็ดน้ำแข็ง ซึ่งมีภาษาพื้นเมืองเรียกว่า “แม่คะนิ้ง” ผู้ที่จะไปพักผ่อนควร เตรียมตัวให้พร้อม ที่จะผจญกับความหนาวเย็น

พรรณไม้และสัตว์ป่า

ภูเรือ มีสภาพป่าหลายชนิดปะปนกันอย่างสวยงาม ทั้งป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง ป่าดงดิบ ป่าสนเขา โดยเฉพาะ ยอดภูเรือ ประกอบด้วยป่าสนเขา สลับกับสวนหินธรรมชาติแซมด้วยพุ่มไม้เตี้ย สลับด้วยทุ่งหญ้าเป็นระยะ ที่พบ โดยทั่วไป ได้แก่ กุหลาบป่า มอส เฟิน และกล้วยไม้ที่สวยงาม เช่น ม้าวิ่ง สามปอย ไอยเรศ เอื้องคำ เอื้องผึ้ง เอื้องเงิน ซึ่งขึ้นตามต้นไม้และโขดหิน กล้วยไม้เหล่านี้จะออกดอกบานสะพรั่งให้ชมสลับกันไปตลอดทั้งปี นอกจากนี้ ป่าภูเรือยังมีสัตว์ป่าที่ชุกชุมพอสมควร ที่พบบ่อย เช่น หมี เก้ง กวางป่า หมูป่า หมาไน ลิง พญากระรอกดำ ไก่ฟ้าพญาลอ ไก่ป่า และชุกชุมไปด้วยกระต่ายป่า เต่าเดือย เต่าปูลูและนกชนิดต่างๆ ที่สวยงาม อีกมากมาย โดยเฉพาะในฤดูหนาวจะอพยพมาจากประเทศจีนเป็นจำนวนมาก

แหล่งท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติภูเรือ

1. ผาโหล่นน้อย

2. ยอดภูเรือ

3. ผาซำทองหรือผากุหลาบขาว

4. น้ำตกห้วยไผ่

5. สวนหินพาลี

6. ถ้ำไทร

7. สวนหินพาลี

การเดินทางไปอุทยานแห่งชาติภูเรือ

1.โดยรถยนต์ส่วนตัว

อุทยานแห่งชาติภูเรือ อยู่ห่างจากจังหวัดเลย ประมาณ 48 กิโลเมตร โดยเดินทางไปโดยทางหลวงแผ่นดิน หมาย เลข 203 ถึงอำเภอภูเรือ จะมีป้ายอุทยานแห่งชาติอยู่ปากทางเข้าซึ่งอยู่ข้างที่ว่าการอำเภอภูเรือ (มาจากจังหวัดเลย ป้ายจะอยู่ทางด้านขวามือ มาจากจังหวัดเพชรบูรณ์ ป้ายจะอยู่ทางด้านซ้ายมือ) จากปากทางเข้าเดินทางต่อไปอีก ประมาณ 4 กิโลเมตร ก็ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ถนนภายในอุทยานแห่งชาติเป็นถนนลาดยาง เป็นถนนบน ภูเขาบางช่วงมีความลาดชัน นักท่องท่องเที่ยวควรขับขี่ด้วยความระมัดระวัง ใช้เกียร์ต่ำ มิฉะนั้นจะทำให้เบรค ไหม้ได้

2.โดยรถสาธารณะ

จากกรงุเทพสามารถนั่งรถทัวร์จากสถานีขนส่งหมอชิต ซึ่งมีรถทัวร์ให้บริการหลาย บริษัท มาลงหน้าตลาดเช้า ใกล้ภูเรือ ติดต่อเหมารถสองแถวขึ้นไปได้จากตรงนี้.

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 
 

เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง

อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า

รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว

ภูหลวงมีความหมายว่าเขาที่สูงใหญ่หรือมีความหมายถึงภูเขาของพระเจ้าแผ่นดินก็ได้ นับเป็นสิริมงคลนามที่บรรพบุรุษได้ตั้งชื่อไว้ เกิดจากการยกตัวของพื้นผิวโลก และดินส่วนที่อ่อนถูกพัดพาลงสู่พื้นที่ส่วนต่ำ คงเหลือหินซึ่งเป็นโครงสร้างส่วนที่แข็งไว้เป็นภูเขา

ลักษณะภูมิอากาศ

• ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธุ์ถึงเดือนเมษายน อุณหภูมิโดยเฉลี่ยประมาณ 20-24 องศาเซลเซียส

• ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ถึงเดือนตุลาคม อุณหภูมิสูงกว่าฤดูร้อนเล็กน้อยหรือใกล้เคียงกัน

• ฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนกรกฎาคม อากาศหนาวจัดอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 8-16 องศาเซลเซียส โดยปกติแล้วในช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนมกราคมจะมีอุณหภูมิลดลงถึง 4-6 องศาเซลเซียส อยู่หลายวันและบางปีอุณหภูมิจะลดต่ำลงกว่าจุดเยือกแข็ง

จุดเด่นที่น่าสนใจ

   1.อุณหภูมิของอากาศที่หนาวเย็นตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในฤดูหนาวอุณหภูมิจะลดลงใกล้ถึงจุดเยือกแข็งหรือต่ำกว่าจุดเยือกแข็งเกือบทุกปี

   2.เป็นแหล่งที่มีพืชพรรณไม้ในที่สูงที่อุดมสมบูรณ์มาก มีกล้วยไม้ป่ามากกว่า 160 ชนิด มีพืชพรรณ ไม้ที่หายากหรือมีที่ภูหลวงเพียงแห่งเดียวหรือพืชพรรณไม้ที่ไม่ค่อยจะพบเห็น

   3.สวนหินธรรมชาติที่ประกอบด้วยพืชพรรณไม้ดอกกล้วยไม้และพืชชั้นต่ำ เช่นลานสุริยัน และป่าหินภูเขา

   4.หน้าผาที่สูงชันและทิวทัศน์ที่สวยงาม เช่น ผาสมเด็จ ผาเยือง และผาโหล่นแต้

   5.ทุ่งดอกไม้ป่าที่สมบูรณ์และสวยงาม เช่นทุ่งกุหลาบแดง ทุ่งกุหลาบขาว

   6.รอยเท้าไดโนเสาร์ ที่มีอายุประมาณ 120 ล้านปี

   7.น้ำตกที่ตกจากหน้าผาที่สูงประมาณ 60 เมตร เช่นน้ำตกตาดเลย

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 
 

เสมาหินทรายที่บ้านปากแบ่งและบ้านนาหลัก

สถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และอนุสาวรีย์

รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว

บ้านปากแบ่งและบ้านนาหลัก ตำบลวังสะพุงอยู่ห่างกัน 4 กม. โดยบ้านนาหลัก ตั้งอยู่ทางทิศเหนือ และบ้านปากแบ่งอยู่ทางทิศใต้ ทั้งสองแห่งเป็นหมู่บ้านเก่าแก่มานาน ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเลย ปัจจุบันคือหมู่บ้านในตัวอำเภอวังสะพุง ใบเสมาบ้านปากแบ่งพบครั้งแรกเมื่อปลายปี พ.ศ. 2508          

ลักษณะใบเสมามีลวดลายสลักรูปบัวบนฐาน แบบที่มีรูปพระสถูปเจดีย์ประทับอยู่ตรงกลางแผ่นเสมา โดยส่วนบนมีลักษณะรูปกรวยคล้ายกับยอดเจดีย์ที่พบในดินแดนอีสานทั่วไป ที่บ้านนาหลัก เป็นเสมาหินปักคู่สองหลัก แบบที่มีคู่สลักนูนขึ้นไปจากยอดเสมา เป็นรูปคล้าย ๆ กับสถูปเท่านั้น โดยไม่มีลวดลายใด ๆ และปี พ.ศ. 2519 พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่ขอนแก่นได้นำไปเก็บรักษาไว้ 1 หลัก จึงเหลือไว้ในสถานที่เดิมเพียง 1 หลักเท่านั้น กลุ่มเสมาหินที่พบในภาคอีสานแสดงให้เห็นถึง ลักษณะเฉพาะของวัฒนธรรมในภูมิภาคตั้งแต่โบราณ โบราณวัตถุที่พบในเขตนี้ทั้งของสมัยก่อนประวัติศาสตร์ด้วย เสมาหินที่พบส่วนมากเป็นศิลปะวัตถุแบบทวาราวดีและลพบุรี

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 
 

แก่งคุดคู้

แม่น้ำลำคลอง

รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว

แก่งคุดคู้  ห่างจากตัวอำเภอเชียงคานประมาณ 3 กิโลเมตร  หากใครมาเที่ยวเชียงคาน มักจะไม่พลาดที่ จะ เดินทางไปยลโฉม ความสวยงามของแก่งคุดคู้ ก่งขนาดใหญ่ แห่งหนึ่งของไทย ที่เกิดจากการทอดตัว ของ แนวหิน ลงใน แม่น้ำโขง ประกอบด้วย หินก้อนใหญ่ ๆ เป็นจำนวนมากจากการที่หินเหล่านี้อยู่ใต้น้ำเป็นเวลานาน ทำให้หินเหล่านี้มีสีสัน ไปต่าง ๆ ตัวแก่ง กว้างใหญ่เกือบจรดสองฝั่งแม่น้ำโขง มีกระแสน้ำไหลผ่านไป เพียง ช่องแคบ ๆ ใกล้ฝั่งไทยเท่านั้นเอง ซึ่งกระแสน้ำเชี่ยวกราก

เวลาที่เหมาะจะชมแก่งคุดคู้ที่สุดคือ เดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นเวลาที่น้ำแห้ง มองเห็นเกาะแก่งชัดเจน และสามารถเดินลงไปเพื่อสัมผัสบรรยากาศ ของริมน้ำโขงได้อย่างใกล้ชิดได้ ซึ่งบริเวณนี้จะเป็นหาดทรายกว้างและหิน ก้อนกลมเงาเรียงรายกันนับ ร้อยนับ พันก้อน มีศาลาชมวิว บรรยากาศดีมาก ลมเย็นสบาย มองออกมาจากศาลา ไปทางลำน้ำ จะเห็นโขดหินคล้ายๆ กับ สันเขื่อน ที่วางขวางลำน้ำ จุดนี้แหละที่เป็นที่มาของคำว่า “แก่งคุดคู้”

บริเวณแก่งมีร้านอาหารบริการนักท่องเที่ยว บริการเรือยนต์ล่อง บริการมีแพลากบริการนักท่องเที่ยวให้ได้สัมผัสกับธรรมชาติริมสองฝั่งโขง

การเดินทางไปแก่งคุดคู้

จากตัวอำเภอเชียงคานนักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถสายรอบเมืองไปแก่งคุดคู้ได้ซึ่งห่างจากตัวอำเภอเชียงคาน ประมาณ 3 กิโลเมตร

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 
 

โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ ผานาง - ผาเกิ้ง

โครงการหลวงและโครงการในพระราชดำริ

รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว

เนื่องด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีความห่วงใยราษฏรในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ส่วนใหญ่มีฐานะยากจนและต้องประสบกับวิกฤตต่างๆ เช่น น้ำท่วม ความแห้งแล้ง ความไม่แน่นอนของสภาพดินฟ้าอากาศ ทั้งนี้เนื่องจากประชาชนมีการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่าเพื่อทำไร่เลื่อนลอยกันมาก จึงทรงมีพระราชเสาวนีย์ ให้ พันเอก เรวัต บุญทับ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 3 (ยศและตำแหน่งในขณะนั้น) ร่วมกับจังหวัดเลย จัดพื้นที่เพื่อจัดทำโครงการฯ สำหรับช่วยเหลือราษฎรยากจน และไม่มีที่ทำกิน เพื่อลดการทำลายป่าอีกทางหนึ่ง กองพลทหารราบที่ 3 ได้ดำเนินการตามพระราชเสาวนีย์ และได้เลือกพื้นที่บริเวณ ผานาง - ผาเกิ้ง บ้านผานาง หมู่ที่ 5 ตำบลผาอินทร์แปลง กิ่ง อำเภอเอราวัณ จังหวัดเลย จำนวน 135 ไร่ ในพื้นที่จำนวน 350 ไร่ อยู่ติดกับภูเขาซึ่งเป็นป่าธรรมชาติ ในปัจจุบันขยายเป็น 500 ไร่ มีลำธารไหลผ่านเหมาะสมกับการทำไร่นาสวนผสมและสวนป่าตามโครงการป่ารักน้ำ จึงจัดตั้งเป็นโครงการฯขึ้นในปีที่ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เจริญพระชนพรรษา ครบ 60 พรรษา ในปี พ.ศ. 2535 โดยมีวัตถุประสงค์หลักรักษาสภาพป่าที่สมบูรณ์มิให้ถูกทำลาย พัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎรให้ดีขึ้น โดยส่งเสริมอาชีพและจัดสรรที่ทำกินให้เป็นหลักแหล่งฟื้นฟูสภาพป่า ให้กลับคืนสู่สภาพความสมบูรณ์ให้เป็นป่าธรรมชาติ ป่าใช้สอย และป่าเศรษฐกิจ

โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ ผานาง - ผาเกิ้ง ตั้งอยู่ที่อำเภอเอราวัณ ภายในโครงการมีการทอผ้าไหม เครื่องหัตกรรม และเครื่องครัวที่ผลิตจากไม้ไผ่และไม้สัก โรงเพาะเห็ดหลินจือ เห็ดหอม เห็ดนางฟ้า ฯลฯ โดยมีสินค้าจำหน่ายที่ร้านค้าของโครงการ และมีกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย เช่น การตกปลา ขี่จักรยานท่องเที่ยว และชมทิวทัศน์รอบบริเวณโครงการและมีที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวเป็นหมู่คณะ ทั้งแบบเรือนพัก และกางเต็นท์ เปิดตั้งแต่เวลา 8.00-16.00 น.

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

#ขอบคุณข้อมูลและภาพทั้งหมดจาก เว็ปไซด์ ททท.  

 
 

#เที่ยวกับAKสนุก,ประหยัด,คุ้มค่า,สะดวก,จริงใจ 

#ทำเรื่องเที่ยวให้เป็นเรื่องง่าย ใครก็เที่ยวได้เที่ยวกับเราสิคะAK 

#AK  

 
       
 

 

โครงการพิเศษสำหรับสมาชิก

eae 04

     
 akm    AK HOTELS card RED OK
 A K Hotels Exclusive Club     AK Hotels Privilege Club

 eae 04

     
  logo akmtravel  
       
ชะอำ

  หากวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ใครยังไม่มีโปรแกรมไปเที่ยวไหน หรือ เบื่อทะเล เซ็งภูเขา อยากหาสถานที่ท่องเที่ยวชิลล์ ๆ ในบรรยากาศสบาย...

หัวหิน

  เลียบทะเลบ้านกรูด...ชมน้ำใสสะอาด...ท้องฟ้าสีคราม         หาดบ้านกรูด อยู่ในเขตบ้านกรูด ตำบลธงชัย...

กระบี่

      “ เกาะลันตา ”     เป็นชื่อเกาะขนาดใหญ่ มีรูปร่างเรียวยาว พื้นที่ 472 ตารางกิโลเมตร...

เชียงใหม่

    ทริปนี้ ที่เชียงใหม่....ดินแดนแห่งขุนเขาและสายหมอก พื้นที่อุดมสมบูรณ์ ธรรมชาติที่สวยงาม "เชียงใหม่ ไนท์...

กระบี่

                                เที่ยวกระบี่...

พัทยา / ชลบุรี

      พัทยา มีมากกว่าทะเล 4 บรรยากาศ หลากสไตล์...

       

travel

logo A K Reward Point

สะสมคะแนน

A K Reward Point

ยิ่งใช้ ยิ่งได้ ยิ่งคุ้ม ครบทุกไลฟ์สไตล์

ของการพักผ่อน รับคะแนนสะสม

เมื่อใช้จ่ายผ่าน เอ เค

......................................

Travel
รายการของรางวัลแลก
คะแนนสะสมในหมวด ท่องเที่ยว

......................................

Voucher
รายการของรางวัลแลก
คะแนนสะสมในหมวด บัตรกำนัล

003
แนะนำ สถานที่ท่องเที่ยว กรุงเทพมหานครฯ
แนะนำ สถานที่ท่องเที่ยว เชียงราย
แนะนำ สถานที่ท่องเที่ยว เชียงใหม่
ส่วนลด สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศ
ส่วนลด บริการรถเช่า
ส่วนลด ล่องเรือแม่น้ำเจ้าพระเจ้า
ส่วนลด สนามกอล์ฟ
ส่วนลด สปา
ส่วนลด บริการสำรองตั๋วเครืองบิน

เลขที่ใบอนุญาต

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า Trustmarkthai
ttt 2

Special

A K Hotels Exclusive Club
A K Hotels Privilege Club
AK Reward Point
Review Up Point

จำนวนผู้เข้าชม

25023916
Today
Yesterday
This Week
Last Week
This Month
Last Month
All days
3808
28548
69717
24913592
65046
476400
25023916

Your IP: 23.22.35.162
thAsia/BangkokFri, 05 Jul 2024 02:13:45 +0700vAsia/BangkokFri, 05 Jul 2024 02:13:45 +0700 ICT1307Asia/Bangkok: %2024-%07-%05 %02:%Jul:%th

++ Hot !! Promotion ++

Duo Special

logologo akmtravel

HpvHex