ชัยนาท หลวงปู่ศุขลือชา เขื่อนเจ้าพระยาลือชื่อ นามระบือสวนนก ส้มโอดกขาวแตงกวา |
|||||||||||||||||||||||||||||
ชัยนาท แปลตามศัพท์มีความหมายว่าชัยชนะที่มีเสียงบันลือ เป็นเมืองโบราณเมืองหนึ่ง สร้างในสมัยพญาเลอไทแห่งกรุงสุโขทัย ระหว่าง พ.ศ. 1860-1879 ตั้งขึ้นหลังเมืองพันธุมวดี (สุพรรณบุรี) โดยเป็นเมืองหน้าด่านของกรุงสุโขทัย และมีฐานะเป็นเมืองหน้าด่านทางใต้ |
|||||||||||||||||||||||||||||
วัดพระบรมธาตุวรวิหาร |
ตัวเมืองเดิมอยู่บริเวณฝั่งขวาแม่น้ำเจ้าพระยาที่ปากคลองแพรกศรีราชา ใต้ปากลำน้ำเก่า จึงได้ชื่อว่าเมืองแพรก หรือเมืองสรรค์ เมื่อกรุงสุโขทัยเสื่อมอำนาจลง เมืองแพรกกลายเป็นเมืองหน้าด่านทางตอนเหนือของกรุงศรีอยุธยา ต่อมาได้เกิดชุมชนใหม่ไม่ไกลจากเมืองสรรค์ มีเจ้าสามพระยา (ซึ่งต่อมาคือสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 แห่งกรุงศรีอยุธยา) เป็นผู้ครองเมือง เมืองที่เกิดขึ้นใหม่นี้เป็นเมืองใหญ่ มีชื่อว่าชัยนาท ที่ได้ชื่อเช่นนี้ก็เพราะชัยนาทเป็นเมืองยุทธศาสตร์ที่สำคัญ เคยใช้เป็นที่ตั้งทัพรับศึกพม่าหลายครั้ง และมีชัยทุกครั้งไป ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงย้ายตัวเมืองจากบริเวณแหลมยางมาตั้งตรงฝั่งซ้ายแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนเมืองสรรค์นั้นเสื่อมลงเรื่อยๆ เพราะผู้คนส่วนใหญ่อพยพไปอยู่ที่ชัยนาท จนในที่สุดก็กลายเป็นเพียงอำเภอหนึ่งของชัยนาท จังหวัดชัยนาทมีเนื้อที่ประมาณ 1,543,591 ไร่ หรือประมาณ 2,469.74 ตารางกิโลเมตร หรือเท่ากับร้อยละ 15.5 ของพื้นที่ภาคกลางตอนบน พื้นที่โดยรวมของจังหวัดเป็นพื้นที่ราบลุ่ม มีแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน แม่น้ำน้อย ไหลผ่านพื้นที่ต่างๆ ทั่วทุกอำเภอ จังหวัดชัยนาทแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองชัยนาท อำเภอหันคา อำเภอมโนรมย์ อำเภอสรรคบุรี อำเภอสรรพยา อำเภอวัดสิงห์ อำเภอหนองมะโมง และอำเภอเนินขาม |
|||||||||||||||||||||||||||||
ข้อมูลทั่วไป ชัยนาทเป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่บริเวณภาคกลางตอนบน มีแม่น้ำหลายสายไหลพาดผ่าน ทำให้เมืองนี้มีความอุดมสมบูรณ์มาก อีกทั้งเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์มายาวนานตั้งแต่สมัยสุโขทัย จึงมีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ให้เห็นอยู่เป็นจำนวนมาก ปัจจุบันชัยนาทมีชื่อเสียงและมีสินค้าด้านหัตถกรรม การจักสาน การปั้น การทอ การทำเครื่องเบญจรงค์ ที่มีฝีมือประณีต รูปแบบทันสมัย ราคาย่อมเยา มีตลาดจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยฝีมือของชาวบ้านกลุ่มต่าง ๆ อีกด้วย ชัยนาท แปลตามศัพท์มีความหมายว่าชัยชนะที่มีเสียงบันลือ เป็นเมืองโบราณเมืองหนึ่ง สร้างในสมัยพญาเลอไทแห่งกรุงสุโขทัย ระหว่าง พ.ศ. 1860-1879 ตั้งขึ้นหลังเมืองพันธุมวดี (สุพรรณบุรี) โดยเป็นเมืองหน้าด่านของกรุงสุโขทัย และมีฐานะเป็นเมือง หน้าด่านทางใต้ตัวเมืองเดิมอยู่บริเวณฝั่งขวาแม่น้ำเจ้าพระยาที่ปากคลองแพรกศรีราชา ใต้ปากลำน้ำเก่า จึงได้ชื่อว่าเมืองแพรก หรือเมืองสรรค์เมื่อกรุงสุโขทัยเสื่อมอำนาจลง เมืองแพรกกลายเป็นเมืองหน้าด่านทางตอนเหนือของกรุงศรีอยุธยา ต่อมาได้เกิดชุมชนใหม่ไม่ไกลจากเมืองสรรค์ มีเจ้าสามพระยา (ซึ่งต่อมาคือสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 แห่งกรุงศรีอยุธยา) เป็นผู้ครองเมือง เมืองที่เกิดขึ้นใหม่นี้เป็นเมืองใหญ่ มีชื่อว่าชัยนาท ที่ได้ชื่อเช่นนี้ก็เพราะชัยนาทเป็นเมืองยุทธศาสตร์ที่สำคัญ เคยใช้เป็นที่ตั้งทัพรับศึกพม่าหลายครั้ง และมีชัยทุกครั้งไป ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงย้ายตัวเมืองจากบริเวณแหลมยางมาตั้งตรงฝั่งซ้ายแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนเมืองสรรค์นั้นเสื่อมลงเรื่อยๆ เพราะผู้คนส่วนใหญ่อพยพไปอยู่ที่ชัยนาท จนในที่สุดก็กลายเป็นเพียงอำเภอหนึ่งของชัยนาท จังหวัดชัยนาทมีเนื้อที่ประมาณ 1,543,591 ไร่ หรือประมาณ 2,469.74 ตารางกิโลเมตร หรือเท่ากับร้อยละ 15.5 ของพื้นที่ภาคกลางตอนบน พื้นที่โดยรวมของจังหวัดเป็นพื้นที่ราบลุ่ม มีแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน แม่น้ำน้อย ไหลผ่านพื้นที่ต่างๆ ทั่วทุกอำเภอ จังหวัดชัยนาทแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองชัยนาท อำเภอหันคา อำเภอมโนรมย์ อำเภอสรรคบุรี อำเภอสรรพยา อำเภอวัดสิงห์ อำเภอหนองมะโมง และอำเภอเนินขาม ที่พัก จังหวัดชัยนาทมีโรงแรมหลายระดับ รวมทั้งยังมี รีสอร์ต และเกสต์เฮาส์มากมายตามแหล่งท่องเที่ยวเด่นๆ เช่น ในอำเภอวัดสิงห์ อำเภอสรรพยา ราคาห้องพักเริ่มตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลายพันบาท ขึ้นอยู่กับประเภทของห้องพักและที่ตั้ง |
|||||||||||||||||||||||||||||
สถานที่ท่องเที่ยว จังหวัดชัยนาทมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ทั้งในด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม รวมถึงวัดวาอารามต่าง เช่น สวนนกชัยนาท วัดธรรมามูลวรวิหาร วัดพระบรมธาตุวรวิหาร เขื่อนเจ้าพระยา เป็นต้น |
|||||||||||||||||||||||||||||
กิจกรรมท่องเที่ยว จังหวัดชัยนาทมีทรัพยากรในด้านการท่องเที่ยวที่โดดเด่นมากมายและหลากหลายรูปแบบ มีกิจกรรมท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อคือ ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เช่น กิจกรรมดูนก เป็นต้น |
|||||||||||||||||||||||||||||
อาหารและเครื่องดื่ม จังหวัดชัยนาทมีแม่น้ำหลายสายไหลพาดผ่าน เมนูเด็ดของที่นี่จึงเน้นเกี่ยวกับปลาแม่น้ำทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นผัดเผ็ด ทอดกรอบ ต้มยำ ฯลฯ ร้านอาหารที่โด่งดังส่วนใหญ่จะอยู่ในเขตพื้นที่ตัวอำเภอเมืองฯ และถนนเลียบริมแม่น้ำเจ้าพระยา สำหรับสถานบันเทิงแนวไนต์ไลฟ์นั้น ในตัวเมืองชัยนาทมีผับหลายแห่งเปิดให้บริการ รวมทั้งในโรงแรม รีสอร์ตส่วนใหญ่ ก็มีผับ บาร์ ที่น่าไปนั่งจิบเครื่องดื่ม พร้อมฟังดนตรีเพราะๆ ในยามค่ำคืน |
|||||||||||||||||||||||||||||
ช้อปปิ้ง สินค้าและของที่ระลึกจากจังหวัดชัยนาทมีเครื่องจักสานด้วยหวายและไม้ไผ่ เป็นผลิตภัณฑ์เครื่องจักสาน และเสื่อกกที่มีชื่อเสียงมานาน ผลิตในเขตตำบลท่าฉนวน เปลญวนจากผักตบชวา มีขายในเขตท้องที่บ้านหนองตำบลตลุก อำเภอสรรพยา และบ้านแหลมหว้า อำเภอเมืองฯ ผ้าทอพื้นบ้านเนินขาม เป็นผ้าทอพื้นบ้านที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของท้องถิ่น ผลิตผลทางการเกษตรที่สำคัญคือส้มโอมโนรมย์ พันธุ์ที่นิยมปลูกกันมาก ได้แก่ พันธุ์ขาวแตงกวา นอกจากนี้ก็มีของกินอื่นๆ คือ ทอฟฟี่นม ทอฟฟี่นมแท้คือยี่ห้อคุณแม่เล็ก ตลาดโพนาค น้ำตาลห้วยกรด เป็นน้ำตาลปึกที่ผลิตจากน้ำตาลโตนด ที่เที่ยว สุดสโลว์ไลฟ์ สไตล์ ชัยนาท .... |
|||||||||||||||||||||||||||||
อนุสาวรีย์ขุนสรรค์ แลนด์มาร์กและอนุสรณ์สถาน, สถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และอนุสาวรีย์ รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว วีรกรรมของขุนสวรรค์และชาวบ้านบางระจันที่สู้รบกับพม่าเพื่อป้องกันมาตุภูมิ ยังคงเป็นที่กล่าวขาน ถึงความกล้าหาญ เสียสละ และความสมัครสมานสามัคคีของชาวบ้าน ที่ขณะนั้นมีเพียง 400 คนเศษ ถึงแม้คราวนั้นจะไม่สามารถชนะการสู้รบได้ แต่ก็นำมาซึ่งความภาคภูมิใจและฝากชื่อเสียงไว้ให้คนไทยรุ่นหลังได้ระลึกถึงอยู่เรื่อยมา จนกลายเป็นที่มาของอนุสาวรีย์แห่งนี้ ซึ่งเป็นอนุสาวรีย์รูปหล่อของขุนสรรค์ ผู้เป็นบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ไทยที่ได้รับสมญานามว่า “วีรบุรุษแห่งลุ่มแม่น้ำน้อย” หนึ่งในผู้นำชาวบ้านบางระจันที่อาสาป้องกันชาติคนแรกของอำเภอสรรคบุรีเมื่อ 223 ปีก่อนและรบชนะพม่าถึง 7 ครั้ง โดยมีการทำพิธีเปิดและสมโภชในวันที่ 19 มกราคม ซึ่งในทุกๆ ปีของวันนี้ ชาวชัยนาทโดยเฉพาะชาวอำเภอสรรคบุรี จะทำพิธีบวงสรวงดวงวิญญาณขุนสรรค์เพื่อรำลึกถึงพระคุณอันยิ่งใหญ่และการสมโภชนี้ยังถือเป็นประเพณีท้องถิ่นที่สำคัญประเพณีหนึ่งของจังหวัดชัยนาทอีกด้วย ^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^ |
|||||||||||||||||||||||||||||
เขื่อนเจ้าพระยา เขื่อน พื้นที่อนุรักษ์ ทะเลสาบ รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว เขื่อนทดน้ำแห่งแรกของประเทศไทยและเป็นสายเลือดใหญ่ที่ใช้ประโยชน์ทางด้านชลประทานและการทดน้ำเพื่อการเกษตรโดยระบายน้ำจากแม่น้ำในภาคเหนือสู่ภาคกลางและอ่าวไทย ส่งต่อไปยังพื้นที่เพาะปลูกภาคกลาง เข้าคลองส่งน้ำสายใหญ่รวม 5 สาย คือ แม่น้ำน้อย แม่น้ำท่าจีน คลองมะขามเฒ่า-อู่ทอง คลองชัยนาท-ป่าสักและคลองชัยนาท-อยุธยา อีกทั้งยังใช้ผลิตไฟฟ้าสำหรับจ่ายในจังหวัดชัยนาทความแข็งแรงของเขื่อนก่อสร้างด้วย คอนกรีตเสริมเหล็กติดตั้งบานประตู เหล็กโค้งสูง 7.50 เมตร พร้อมช่องระบายให้น้ำไหลผ่านจำนวน 16 ช่อง ประตูน้ำสำหรับเรือสัญจรติดกับเขื่อนด้านขวามีขนาดใหญ่พอที่เรือขนาดใหญ่ผ่านเข้าออกได้ สะพานบนสันเขื่อนกว้าง 7 เมตร รองรับรถบรรทุกน้ำหนักไม่เกิน 20 ตัน และมีทางระบายน้ำล้นฉุกเฉินที่จะช่วยระบายน้ำเมื่อเกิดอุทกภัย สำหรับช่วงเวลาที่เหมาะแก่การมาเที่ยวชมคือเดือนมกราคม เนื่องจากช่วงต้นปีจะมีบรรยากาศเย็นสบายผ่อนคลายด้วยวิวทิวทัศน์สวยงามน่ารื่นรมย์พร้อมรับชมฝูงนกเป็ดน้ำนับหมื่นที่ออกมาหากินยังแม่น้ำเหนือเขื่อนนับเป็นภาพความงามตามธรรมชาติที่หาชมได้ยากยิ่ง ^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^ |
|||||||||||||||||||||||||||||
สวนลิง กิจกรรมกลางแจ้ง และกิจกรรมผจญภัย รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว ไม่เพียงแต่จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดชัยนาทเท่านั้น ภายในวัดธรรมิกาวาสหรือวัดค้างคาวแห่งนี้ยังมีป่ายางสูงสลับซับซ้อนจนกลายเป็นที่พำนักของฝูงลิงน้อยใหญ่มาตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ ซึ่งปัจจุบันมีไม่น้อยกว่า 2,000-3,000 ตัว เนื่องจากสภาพโดยรอบยังคงความอุดมสมบูรณ์ บริเวณหน้าวัดมีแม่น้ำไหลผ่านให้บรรยากาศที่สุดแสนจะร่มรื่น จนครั้งหนึ่งยังเคยใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนางนากอีกด้วย บางคราวนักท่องเที่ยวอาจเห็นความน่ารักอย่างชิดใกล้ของลิงน้อยที่เกาะหลังแม่ แล้วปีนป่ายซุกซนไปทั่วป่า โดยฝูงลิงที่นี่ส่วนใหญ่มีนิสัยไม่ดุร้ายและคุ้นคนเป็นอย่างดี กล่าวกันว่าลิงเหล่านี้เป็นลิงที่หลวงพ่อเฒ่าเจ้าอาวาสองค์แรกของวัดธรรมิกาวาสนำมาเลี้ยงไว้ ชาวบ้านเล่าว่า เคยมีคนแอบมาขโมยลูกลิงไป จึงโดนหลวงพ่อเฒ่าไปเข้าฝันทวงลิงคืนมาหลายราย หลวงพ่อเฒ่าเป็นพระเกจิที่ชาวบ้าน ให้ความเคารพนับถือมานาน ท่านเป็นพระในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นจึงไม่เคยปรากฏรูปถ่ายให้เห็นมีเพียงรูปหล่อของท่านที่เหลือไว้ภายในวัดให้ชาวบ้านและประชาชนทั่วไปได้กราบไหว้ขอพร ^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^ |
|||||||||||||||||||||||||||||
สวนนกชัยนาท สวนสัตว์ และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว อาณาจักรกว้างขวางราว 248 ไร่เศษเป็นสถานที่ตั้งของสวนนกชัยนาท ก่อตั้งขึ้นเมื่อต้นปี พ.ศ. 2526 หรือสมัยที่นายกุศล ศานติธรรม ดำรงตำแหน่งเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท (พ.ศ. 2525-2527) แรงบันดาลใจมาจากสวนนกจูร่งของประเทศสิงคโปร์และถูกพัฒนาเรื่อยมา จวบจนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่สร้างรายได้และชื่อเสียงให้แก่จังหวัดชัยนาท ปัจจุบันอยู่ภายใต้การบริหารจัดการขององค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยนาท โดยมีนายอนุสรณ์ นาคาศัย เป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยนาท ความสงบร่มรื่นของสวนนกแห่งนี้ เป็นที่พำนักอันแสนรื่นรมย์ของนกหายากนานาชนิด และอย่าพลาดรับชมความน่ารักแสนรู้ของสัตว์ตัวจิ๋วที่คุณจะต้องหลงรักอย่างการแสดงละครลิงของคณะละครลิงประกิตโชว์ นอกจากนี้ ภายในพื้นที่ยังมีจุดแวะชมที่น่าสนใจอีกมากมายสำหรับนักท่องเที่ยวรุ่นเด็กและผู้ใหญ่ เช่น ชมกรงนกขนาดใหญ่สุดในเอเชีย, ศูนย์วิทยาศาสตร์ท้องฟ้าจำลองฯ, พิพิธภัณฑ์ปลา, พิพิธภัณฑ์ไข่นก, อาคารแสดงพันธุ์ปลาลุ่มแม่น้าเจ้าพระยาฯ, น้ำตกจำลอง วิหารหลวงปู่ศุข, ศูนย์จำหน่ายสินค้าพื้นเมืองโอท็อป เป็นต้น ^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^ |
|||||||||||||||||||||||||||||
ศูนย์วิทยาศาสตร์ท้องฟ้าจำลอง สวนนกชัยนาท พิพิธภัณฑ์เพื่อการศึกษา รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว แหล่งเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ภายใต้บรรยากาศสุดหรรษาก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2551 เป็นสถานที่ให้ความรู้เกี่ยวกับ เรื่องราวของดาราศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภูมิศาสตร์ โลกกว้างใหญ่ ได้ถูกย่อส่วนไว้ภายในอาคารของท้องฟ้าจำลอง ซึ่งภายในประกอบด้วย พื้นที่จัดแสดงนิทรรศการเพื่อให้ความรู้ด้านดาราศาสตร์และอวกาศ ถัดไปเป็นห้องชมแบบจำลองสุริยะหรือห้องฉายดาว จุได้ 40 ที่นั่ง ตื่นตาไปกับดวงดาวระยิบระยับเต็มฟ้า เปล่งประกายแสงด้วยเครื่องฉายดาวทันสมัยในระบบดิจิทัล ที่สามารถฉายภาพดาวได้เต็มโดมสมบูรณ์แบบทั้งภาพ แสง สี เสียง นอกจากนี้ยังจะได้เพลิดเพลินไปกับภาพยนตร์ 3 มิติ ซึ่งดูผ่านแว่นตาแบบโพลารอยด์ให้ความรู้สึกราวกับเป็นส่วนหนึ่งของเหตุการณ์เลยทีเดียวความทันสมัยยังสะท้อนผ่านตัวอาคารที่ประดับนาฬิกาแดดแบบอีควอเทอเรียลซึ่งสามารถอ่านค่าเวลาจากเงาที่เกิดจากแสงอาทิตย์ได้สุดไฮเทค ตั้งเด่นสง่าอยู่บริเวณด้านหน้าตัวอาคารศูนย์วิทยาศาสตร์ท้องฟ้าจำลองฯ ที่นี่จึงเปรียบเสมือนห้องเรียนดาราศาสตร์อันสมบูรณ์แบบแห่งหนึ่ง ที่ผู้ใหญ่มาเที่ยวได้ และเด็กๆ ก็สามารถมาหาความรู้เพิ่มเติมได้ตลอดเวลา มีอะไรใน…ท้องฟ้าจำลอง ภายในตัวอาคารศูนย์วิทยาศาสตร์ท้องฟ้าจำลองฯ แบ่งออกเป็น 8 โซนให้เดินชม ประกอบด้วย • โซน 1 ดาราศาสตร์ไทย ให้ความรู้ด้านประวัติศาสตร์ไทย และพระอัจฉริยภาพทางด้านดาราศาสตร์ไทยของ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงได้รับการยกย่องในพระราชสมัญญานามว่า "พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์" • โซน 2 ระบบสุริยะและอวกาศ ให้ความรู้ถึงที่มาของจักรวาล การเกิดระบบสุริยะและมารู้จักกับระบบสุริยะจักรวาล พร้อมชมดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ • โซน 3 ดวงดาวบนท้องฟ้า สำหรับศึกษาค้นคว้ากลุ่มดาวต่างๆ บนท้องฟ้า ความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มดาวกับฤดูกาล • โซน 4 เรียนรู้เรื่องดวงจันทร์ ดาวหาง และดาวตก • โซน 5 รู้จักกับกล้องดูดาว ชมแบบจำลองกล้องโทรทรรศน์สำหรับศึกษาดวงดาวบนท้องฟ้าและดาวเคราะห์ • โซน 6 การเดินทางผ่านชั้นบรรยากาศ ทำความรู้จักกับชั้นบรรยากาศ และการสำรวจดวงจันทร์ พร้อมชมแบบจำลองยานอวกาศ ศึกษาความเป็นมาดาวเทียมของไทยและต่างประเทศ • โซน 7 มหัศจรรย์ดาราศาสตร์ ชุดสนุกกับคำถาม - คำตอบ เรื่องดาราศาสตร์และอวกาศ สนุกกับระบบสัมผัสแห่งจินตนาการ • โซน 8 สภาวะโลกร้อนกับการช่วยลดปัญหาโลกร้อน ให้ข้อมูลถึงการเกิดสภาวะโลกร้อน และพลังงานทดแทน ช่วยแก้ปัญหาภาวะโลกร้อนได้อย่างไร ^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^ |
|||||||||||||||||||||||||||||
วัดไกลกังวล (เขาสารพัดดีศรีเจริญธรรม) วัด รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว ด้วยทำเลที่ตั้งวัดโอบล้อมรอบไปด้วยภูเขาและสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่สวยงามทั้งสี่ด้าน โดยด้านทิศตะวันตกติดกับเขาดินสอ ถัดมาทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือเป็นเขาหนองสอด ด้านเหนือเป็นหมู่บ้านบ้านไร่สวนลาว ส่วนทิศตะวันออกเป็นหมู่บ้านหนองทาระกูและคลองชลประทานอู่ทอง – มะขามเฒ่า บรรยากาศอันแสนร่มรื่นไปด้วยภูเขา สงบเงียบและห่างไกลจากความวุ่นวายจึงกลายเป็นที่มาของชื่อวัดไกลกังวลแห่งนี้ ซึ่งเป็นวัดราษฎร์ สังกัดนิกาย มหานิกาย โดยวัดล้อมรอบไปด้วยกำแพงคอนกรีตถาวรสูง 3.70 เมตร ยาวรอบภูเขา 5 กิโลเมตร จึงได้ชื่อว่าเป็นกำแพงวัดที่ยาวที่สุดและล้อมป่าปลูกด้านทิศเหนือไว้ราว 2 กิโลเมตร ตามกองโบราณคดี กรมศิลปากร พิสูจน์พบว่าวัดไกลกังวลสร้างขึ้นในสมัยลพบุรีหรือประมาณพ.ศ. 1002 หรือ 1,500 กว่าปีก่อน ละแวกใกล้เคียงของวัดทางด้านทิศเหนือของเชิงเขาใกล้บ้านสวนลาวมีวัดวิหารเก้าห้องซึ่งมีเจดีย์เก่าเป็นหลักฐานและบนยอดเขาหนองสอดก็มีเจดีย์เช่นเดียวกัน ด้านทิศตะวันออกบนพื้นราบของตีนเขามีวัดเก่าชื่อวัดไกรลาศหรือปัจจุบันคือ วัดเทพหิรัณย์ โบราณสถานเหล่านี้ ปลูกสร้างในสมัยลพบุรี สันนิษฐานได้จากวัสดุก่อสร้างที่เหลือให้เห็น เป็นซากเจดีย์ซึ่งก่อด้วยอิฐหนาใหญ่ยาว ส่วนเศษกระเบื้องดินเผาที่เหลือคือตะขอกระเบื้องซึ่งมีลักษณะงอแหลมยาวราวนิ้วชี้ ส่วนอื่นๆที่เหลือเป็นส่วนองค์พระพุทธรูปแกะด้วยหินทรายแดง เช่น เศียร แขน และหน้าตัก ฯลฯ เล่ากันสืบมาว่า เมื่อวัดไกลกังวลตกอยู่ในสภาพรกร้าง ทายกทายิกาบ้านใกล้เรือนเคียงได้ช่วยกันนำพระพุทธรูปและโบราณวัตถุที่มีอยู่ไปไว้วัดที่มีพระสงฆ์ เช่น หลวงพ่อแดง อยู่ที่วัดประชุมธรรม หลวงพ่อดำ วัดหนองทาระภู พระพุทธมาลีศรีเนินขาม วัดเนินขามและระฆังอยู่ที่วัดหนอง พระพุทธรูปและโบราณวัตถุเหล่านี้ล้วนศักดิ์สิทธิ์และมีผู้เคารพนับถือกันมากจนกลายเป็นสมบัติคู่วัดคู่บ้านตราบจนถึงปัจจุบัน ^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^ |
|||||||||||||||||||||||||||||
วัดสองพี่น้อง วัด รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว หนึ่งในโบราณสถานที่ได้รับการขึ้นทะเบียนโดยกรมศิลปากรเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2478 และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีประวัติน่าสนใจ กล่าวกันว่าเจ้าอ้าย เจ้ายี่และเจ้าสามเป็นพี่น้องกัน เจ้าสามยุยงให้เจ้าอ้ายและเจ้ายี่รบกันเองเพื่อแย่งราชสมบัติ เมื่อเจ้าอ้ายและเจ้ายี่เสียชีวิต เจ้าสามจึงได้ครองเมืองและได้สร้างปรางค์แด่เจ้าอ้ายและสร้างเจดีย์แด่เจ้ายี่ โดยสันนิษฐานว่าสร้างก่อนกรุงศรีอยุธยา 600 ปี ต่อมาชาวบ้านร่วมแรงร่วมใจบูรณปฏิสังขรณ์ จนกลายเป็นวัดที่มีพระสงฆ์พำนักตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน 2528 ภายในวัดยังคงมีปรางค์หลังเก่าซึ่งเป็นอนุสรณ์ให้ระลึกถึงเจ้าอ้ายซึ่งเป็นปรางค์สมัยลพบุรีองค์ใหญ่ตั้งอยู่ด้านทิศตะวันออกประดับลายปูนปั้นอันวิจิตรงดงาม ส่วนเจดีย์องค์เล็กตั้งอยู่ด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ถูกบูรณะซ่อมแซมเมื่อปีพ.ศ. 2554 โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดชัยนาทร่วมกับจังหวัดชัยนาทจึงมีสภาพใหม่เอี่ยมน่าเยี่ยมชมเป็นยิ่งนัก ^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^ |
|||||||||||||||||||||||||||||
วัดมหาธาตุ วัด รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว บ้างก็เรียกว่า...วัดพระธาตุหรือวัดหัวเมือง ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นชื่อเดิมของวัดมหาธาตุด้วยกันทั้งสิ้นที่นี่เป็นวัดโบราณคู่เมืองแพรกหรือเมืองสรรค์มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2444 ซึ่งยังคงมีลายพระหัตถ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อคราวเสด็จประพาสได้ทรงบันทึกไว้ โบราณสถานที่น่าสนใจภายในวัดและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ได้แก่ พระปรางค์กลีบมะเฟือง (พูมะเฟือง) สร้างด้วยอิฐถือปูน 3 องค์ พระปรางค์มีลักษณะคล้ายกลีบมะเฟือง ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยม (ฐานเขียง) เป็นศิลปะสมัยลพบุรี โดยกรมศิลปากรได้บูรณะปฏิสังขรณ์เมื่อปี พ.ศ. 2526 นอกจากนั้นยังมีพระพุทธรูปที่รังสรรค์ตามแบบศิลปะลพบุรีและอยุธยาตอนต้น ตลอดจนพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรักษาสิ่งของโบราณต่างๆ ให้เยี่ยมชมอย่างจุใจ ^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^ |
|||||||||||||||||||||||||||||
วัดพระบรมธาตุวรวิหาร วัด รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว ไม่เพียงแต่เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองมาเนิ่นนานตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น ภายในวัดยังเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมและสิ่งก่อสร้างน่าสนใจที่ให้ความรู้สึกราวกับนั่งไทม์แมชชีนย้อนเวลาไปสู่ในยุคกาลก่อน เช่น เจดีย์พระบรมธาตุตามรูปแบบสถาปัตยกรรมอู่ทองภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของประชาชนในจังหวัดชัยนาท และจังหวัดใกล้เคียง โดยในวันเพ็ญเดือน 6 ของทุกๆ ปีจะมีงานเทศกาลสมโภชพระบรมธาตุที่คลาคลั่งไปด้วยผู้คนทั่วสารทิศที่พากันมาเที่ยวชม น่าชม • เจดีย์พระบรมธาตุ ที่ใช้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ องค์เจดีย์ทรงกลมตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัส ซึ่งต่อมุมขึ้นไปรองรับ ใต้องค์ระฆังมีซุ้มจระนำเล็ก ๆ 4 ด้าน ภายในประดิษฐานพระปรางค์นาคปรก 4 ทิศ หน้าบันของซุ้มจระนำมีสองชั้นซ้อนกัน มีปูนปั้นประดับเป็นพระพุทธรูปประทับนั่งขัดสมาธิราบ เหนือฐานบัวหงาย 4 กลับอยู่ตรงกลาง หน้าตักกว้าง 23 ซม. สูงจากฐานจรดพระเศียร 31ซม. ทรงจีวรแบบห่มตอง หรือห่มเฉียง ผ้าสังฆาฏิพาดลงมาเกือบถึงฝ่าพระบาท ลักษณะของพระเศียรและพระพักตร์มีเค้าของศิลปะลพบุรี หรืออู่ทองรุ่นแรก ระหว่างซุ่มจระนำมีผนังทำเป็นมุมเหลี่ยมขึ้นไปรองรับองค์ระฆังและเหนือมุมระหว่างหน้าบันของซุ้มจระนำ ทำเป็นเจดีย์ขนาดเล็ก มีซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูปอีกหลายองค์เรียงรายอยู่โดยรอบ จากนั้นถึงองค์ระฆังทรงกลมรองรับ ปลีย่อส่วนบนสุดมีลักษณะเป็นโลกประดับ ทำนองเป็นฉัตรประดับอีกต่อหนึ่ง จัดเป็นสถาปัตยกรรมแบบอู่ทอง (อยุธยาตอนต้น) ที่นิยมใช้เจดีย์เล็ก ๆ ประดับ • วิหาร สันนิฐานว่าสร้างขึ้นพร้อมเจดีย์พระบรมธาตุ แต่ยังคงมีร่องรอยการบูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ภายหลัง ปัจจุบันพระวิหารดังกล่าวเป็นอาคารก่ออิฐถือปูน • พระอุโบสถ อยู่ทางด้านใต้ติดกับพระวิหาร สันนิษฐานว่าสร้างพร้อมกับพระวิหาร มีร่องรอยการบูรณะซ่อมแซมหลายครั้งมีพระประธานภายในพระอุโบสถเป็นพระพุทธรูปแบบสรรคบุรี ลงรักปิดทองขนาดใหญ่ปางมารวิชัย ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของพระพุทธรูปแบบสรรคบุรี รอบนอกพระอุโบสถมีใยเสมาสลักด้วยหินทรายเป็นศิลปกรรมแบบอยุธยา • แผ่นศิลาจารึก บันทึกข้อความของการฉลองการบูรณปฏิสังขรณ์พระบรมธาตุเจดีย์ ปัจจุบันแผ่นศิลาจารึกประดิษฐานอยู่ที่ฝาผนังวิหารด้านหลังติดกับองค์พระธาตุ ^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^ |
|||||||||||||||||||||||||||||
ฟาร์มจระเข้วัดสิงห์ หรือฟาร์มจระเข้วสันต์ กิจกรรมกลางแจ้ง และกิจกรรมผจญภัย รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว ฟาร์มแห่งนี้อาจเปรียบได้กับสวนสัตว์ขนาดย่อมที่จะพาคุณท่องโลกไปชมชีวิตและความเป็นอยู่ของสัตว์ชนิดต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจระเข้ ที่นับวันก็ยิ่งมีจำนวนลดน้อยลง โดยฟาร์มแห่งนี้เป็นที่อยู่อาศัยของจระเข้ตั้งแต่ตัวเล็กไปจนถึงตัวใหญ่ ซึ่งอาจกำลังนอนแช่น้ำอย่างสบายใจภายในบ่อกั้นรูปสี่เหลี่ยม ตลอดจนสัตว์ชนิดอื่นๆ ที่หาชมได้ยาก เช่น เสือโคร่ง กวาง อิกัวน่า ปลากระเบน และนกพันธุ์ต่าง ๆ ^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^ |
|||||||||||||||||||||||||||||
วัดทรงเสวย วัด รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว ตามตำนานเล่ากันว่า วัดทรงเสวยเป็นชื่อพระราชทานที่ได้จากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยขณะนั้นทรงเสด็จพระราชดำเนินเพื่อตรวจสอบลำน้ำเก่า (ซึ่งตรงกับวันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ.2451) ผ่านลำน้ำมะขามเฒ่าและตลาดวัดสิงห์ ครั้งนั้น พระอธิการคล้อยเป็นเจ้าอาวาสได้ชักชวนราษฎรสร้างพลับพลา เพื่อรับเสด็จฯ และชาวบ้านยังได้ร่วมแรงร่วมใจจัดเตรียมพระกระยาหารเพื่อนำไปถวาย ได้แก่ ยอดหวายโปงเผาไฟ หยวกกล้วยต้ม น้ำพริกปลามัจฉะ พระองค์จึงโปรดให้เรียกวัดแห่งนี้ว่าวัดเสวย แต่ชาวบ้านได้เติมคำว่า “ทรง” เข้าไปด้วย จึงเป็นที่มาของ “วัดทรงเสวย” จนถึงทุกวันนี้ ต่อมาวัดทรงเสวยถูกบูรณะเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าอุรุพงศ์รัชสมโภช พระโอรสองค์ที่ 75 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หลังสิ้นพระชนม์ด้วยวัย 17 พรรษา อีกทั้งได้ถวายของที่ระลึกแด่พระอธิการคล้อย ซึ่งเป็นของที่ระลึกงานพระศพ ได้แก่ บาตร ฝาบาตรมีตราสีทองรูปวงรี มีข้อความว่า ร.ศ. 128 งานพระศพพระเจ้าอุรุพงศ์รัชสมโภช ปิ่นโตขนาดใหญ่ที่ฝาปิ่นโตมีข้อความ เช่นเดียวกับฝาบาตร พระขรรค์ ตาลปัตรใบลาน ตะเกียงลาน เรือสำปั้น ป้านน้ำชา 1 ชุด ปัจจุบันสิ่งของเหล่านี้เก็บรักษาไว้อย่างดีใน “พิพิธภัณฑ์วัดทรงเสวย” ^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^ |
|||||||||||||||||||||||||||||
วัดกรุณา วัด รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว ใครที่มายังวัดแห่งนี้ พลาดไม่ได้ที่จะต้องไปกราบไหว้สักการะพระพุทธมหาศิลาหรือหลวงพ่อหินใหญ่ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวชัยนาทให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก รวมทั้งเป็นพระพุทธรูปศิลาทรายสีนวล อ่อนขนาดใหญ่ที่สุดของจังหวัดชัยนาทเลยก็ว่าได้ โดยสันนิษฐานว่าสร้างในอยุธยาตอนต้น ว่ากันว่าวิหารหลวงพ่อหินสร้างขึ้นสมัยพ.ศ. 2400 บริเวณคุ้งบางกระเบียน ต่อมาในปีพ.ศ. 2496 ทางกรมชลประทานได้สร้างเขื่อนเจ้าพระยาขึ้น จึงทำการย้ายวัดไปสร้างใหม่บนพื้นที่วัดร้างที่ชื่อว่า “วัดดอนตาเสือ” โดยยังคงรูปแบบเดิมไว้ทุกประการ ภายหลังมีการขยายที่ดินเพิ่มเพื่อสร้างศาสนสถาน และตั้งชื่อใหม่ไว้ว่า “วัดกรุณา” โดยพระอุโบสถอันเป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อหินใหญ่ ยังคงตั้งอยู่ที่เดิมเพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้เคารพสักการะ ซึ่งครั้งหนึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เคยเสด็จไปถวายเครื่องสักการะบูชานมัสการพระพุทธมหาศิลาในพระอุโบสถเมื่อคราวเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดเขื่อนเจ้าพระยาเมื่อปี พ.ศ.2500 ^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^ |
|||||||||||||||||||||||||||||
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชัยนาทมุนี พิพิธภัณฑ์ รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว ไม่เพียงแต่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชัยนาทมุนี ในสังกัดสำนักศิลปากรที่ 4 ลพบุรี กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรมจะเป็นหน่วยงานที่รวบรวมเก็บรักษา อนุรักษ์ และจัดแสดงโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ที่เป็นมรดกทางศิลปวัฒนธรรมของชาติแล้วเท่านั้น ยังถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดชัยนาท ซึ่งเหมาะสำหรับผู้สนใจเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และหลงใหลในชิ้นงานเก่าที่หาชมได้ยากยิ่ง โดยพระชัยนาทมุนี (นวม สุทัตโต) อดีตเจ้าคณะจังหวัดชัยนาทและอดีตเจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุวรวิหาร เป็นผู้ริเริ่มในการรวบรวมศิลปวัตถุ โบราณวัตถุที่พบในเขตจังหวัดชัยนาทและบริเวณใกล้เคียง มาเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑสถานของวัดเป็นจำนวนมาก ซึ่งในเวลาต่อมาได้ยกมรดกล้ำค่าที่ว่านี้ ให้กลายเป็นสมบัติของชาติเมื่อปี พ.ศ.2509 ถัดมา ทางกรมศิลปากรจึงได้ดำเนินการก่อสร้างอาคารพิพิธภัณฑสถานขึ้นในบริเวณใกล้กับวัดพระบรมธาตุวรวิหาร แล้วตั้งชื่อว่า พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชัยนาทมุนี เพื่อเป็นที่ระลึกแด่พระชัยนาทมุนี ซึ่งเปิดให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าชมมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2512 เป็นต้นมา ส่วนจัดแสดงของพิพิธภัณฑสถานแห่งนี้แบ่งออกเป็น 2 ชั้น โดยชั้นบนจัดแสดงพระพิมพ์ที่ได้จากการดำเนินงานทางโบราณคดีในประเทศไทย ตั้งแต่พระพิมพ์ในศิลปะทวารวดี ศิลปะศรีวิชัย ศิลปะลพบุรี ศิลปะอยุธยา ศิลปะรัตนโกสินทร์ แม่พิมพ์พระพิมพ์ แผงพระพิมพ์ไม้ และพระพุทธรูปสำริดขนาดเล็ก ตลอดจนสิ่งลำค่าอันเป็นโบราณวัตถุชิ้นสำคัญของชาติ ได้แก่ พระพุทธรูปปางมารวิชัย งดงามด้วยศิลปะแบบล้านนา ที่ได้รับอิทธิพลมาจากสุโขทัยสมัยพุทธศตวรรษที่ 20-21 และหาชมได้ที่นี่เพียงแห่งเดียว ขณะที่ชั้นล่าง จัดแสดงเรื่องราวด้านประวัติศาสตร์ โบราณคดีของจังหวัดชัยนาท โบราณวัตถุที่จัดแสดง ได้แก่ เครื่องใช้ เครื่องประดับสมัยก่อนประวัติศาสตร์และสมัยทวารวดี พระพุทธรูปสมัยต่าง ๆ อีกส่วนหนึ่งจัดแสดงโบราณวัตถุที่สร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา เช่น ตู้พระธรรม เครื่องบริขารถมปัด ประติมากรรมและเครื่องถ้วยในศิลปะลพบุรี สุโขทัย อยุธยา รัตนโกสินทร์ และศิลปะจีน เป็นต้น ^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^ |
|||||||||||||||||||||||||||||
ขอบคุณข้อมูลและภาพทั้งหมดจาก เว็ปไซด์ ททท. #เที่ยวกับAKสนุก,ประหยัด,คุ้มค่า,สะดวก,จริงใจ #ทำเรื่องเที่ยวให้เป็นเรื่องง่าย ใครก็เที่ยวได้เที่ยวกับเราสิคะAK #AK |
|||||||||||||||||||||||||||||
|
||
โครงการพิเศษสำหรับสมาชิก
|
||
![]() |
![]() |
|
A K Hotels Exclusive Club | AK Hotels Privilege Club | |
|
พัทยา มีมากกว่าทะเล 4 บรรยากาศ หลากสไตล์...
ปาย....เป็นเมืองเล็กๆ ทางตอนเหนือของจังหวัดแม่ฮ่องสอน...
“ เกาะลันตา ” เป็นชื่อเกาะขนาดใหญ่ มีรูปร่างเรียวยาว พื้นที่ 472 ตารางกิโลเมตร...
กระบี่....... นอกจากกระบี่จะเป็นเมืองน่าอยู่ ผู้คนน่ารัก (มาก) แล้ว...
สะสมคะแนน ยิ่งใช้ ยิ่งได้ ยิ่งคุ้ม ครบทุกไลฟ์สไตล์ ของการพักผ่อน รับคะแนนสะสม เมื่อใช้จ่ายผ่าน เอ เค ...................................... Travel ...................................... Voucher |
![]() |