รีวิวจากลูกค้า ( Review ) แบ่งปันภาพสวย ๆ ในช่วงเวลาแห่งความสุข #โดนใจ

ส่วนลด สถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำ เมืองพัทยา
ส่วนลด สถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำ เมืองพัทยา
ส่วนลด สถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำ เมืองเชียงใหม่
ส่วนลด ล่องเรือเจ้าพระยา พร้อมดินเนอร์แบบบุฟเฟต์
ส่วนลด โรงแรม & รีสอร์ท ทั่วประเทศไทย
Hot Promotions of the monthly
 

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ แม่น้ำกก

       

เหนือสุดในสยาม ชายแดนสามแผ่นดิน

     ถิ่นวัฒนธรรมล้านนาล้ำค่าพระธาตุดอยตุง

                      เชียงราย........ ดินแดนแห่งขุนเขา เป็นจังหวัดที่อยู่เหนือสุดของประเทศไทย เป็นเมืองเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่สมัยเชียงแสนของพญามังราย ผู้ก่อตั้งเมืองเชียงรายบนพื้นที่ราบลุ่มแม่น้ำกก อุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าไม้บนดอยสูงที่สลับซับซ้อน เป็นแหล่งกำเนิดต้นน้ำและน้ำตกอันงดงามหลายแห่ง และมีเทือกเขาผีปันน้ำที่เป็นพรมแดนกั้นประเทศสหภาพพม่าจนถึงด้านทิศเหนือ อีกทั้งเป็นจุดแรกที่แม่น้ำโขงไหลผ่านประเทศไทย เป็นพรมแดนกั้นกลางระหว่างประเทศไทยกับประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

                        เชียงรายมีประชากรหลายเชื้อชาติ ทั้งชาวไทยพื้นราบ ชาวไทยภูเขา และชาวจีนฮ่อที่อพยพเข้ามาอาศัยอยู่บนดอยสูง แต่ละชนชาติจะมีประเพณี วัฒนธรรม และวิถีชีวิตที่มีเอกลักษณ์ เป็นเสน่ห์อีกอย่างที่ทำให้เชียงรายได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ

 
  ทิศเหนือ       : ติดต่อกับสหภาพพม่า

ทิศใต้           : ติดต่อกับจังหวัดพะเยา

ทิศตะวันออก  : ติดต่อกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

ทิศตะวันตก    : ติดต่อกับจังหวัดเชียงใหม่

 
       
 

...ทิปส์ท่องเที่ยว...

ช่วงฤดูหนาวเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเดินทางไปท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย บรรยากาศตามดอยต่างๆ จะหนาวเย็นสดชื่น โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวย่านดอยตุง ดอยแม่สลอง ภูชี้ฟ้า ผาตั้ง ยามเช้ามีโอกาสเห็นทะเลหมอกที่สวยงาม

ช่วงปีใหม่มีเทศกาลงานปีใหม่ชาวไทยภูเขาหลายเผ่า มีการละเล่น การแสดงในชุดประจำเผ่าสวยงาม เช่น เผ่าม้งจะจัดงานปีใหม่ช่วงสัปดาห์สุดท้ายของธันวาคมถึงต้นเดือนมกราคม เผ่าอาข่าจัดงานปีใหม่ลูกข่างช่วงปลายเดือนธันวาคม เป็นต้น ควรเช็ควันจัดงานก่อนเดินทางไปเที่ยว

ดอกซากุระที่ดอยแม่สลองมักออกดอกบานสะพรั่งในช่วงเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ของทุกปี หากต้องการไปชม ควรตรวจสอบก่อนว่าดอกไม้บานหรือยัง

ช็อปปิ้งที่ตลาดแม่สาย หากจะข้ามไปตลาดท่าขี้เหล็ก ฝั่งพม่า ควรเตรียมหนังสือเดินทางไปด้วย จะได้รับความสะดวกรวดเร็วกว่าการทำบัตรผ่านแดนชั่วคราว

ล่องเรือลำน้ำกก ควรสวมเสื้อแขนยาว กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ เตรียมครีมกันแดด แว่นตา หมวก ขนม และน้ำดื่มไปด้วย และควรสวมเสื้อชูชีพตลอดการล่องเรือเพื่อความปลอดภัย

++++ แนะนำ สถานที่ท่องเที่ยว เชียงราย ++++

อนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช (แลนด์มาร์กและอนุสรณ์สถาน)

รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว

สำหรับชาวเชียงรายแล้ว พ่อขุนเม็งรายมหาราช คือปูชนียบุคคลที่พวกเขาจะไม่มีวันลืมเลือน เพราะพระองค์คือปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์มังราย ผู้สร้างเมืองเชียงรายให้เกรียงไกรในอดีต และปัจจุบันอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช เป็นดังแลนด์มาร์กของเชียงรายที่ผู้สัญจรผ่านไปมาต้องแวะไปสักการะสักครั้ง

โดยอนุสาวรีย์แห่งนี้มีลักษณะเป็นพระรูปของพระองค์หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ ขนาดหนึ่งเท่าครึ่งทรงฉลองพระองค์ด้วยเครื่องทรงพระมหากษัตริย์แบบล้านนาโบราณ ประทับยืนบนฐานสูงประมาณ 3 เมตร ทรงถือดาบด้วยพระหัตถ์ซ้ายแนบกับพระเพลา ทรงสวมมาลัยพระกรและสวมพระธำมรงค์ที่พระหัตถ์ขวาตรงนิ้วนางและนิ้วก้อย และตรงนิ้วชี้ที่พระหัตถ์ข้างซ้าย และทรงฉลองพระบาท ในปัจจุบันมีตุงหลวงเฉลิมพระเกียรติสีทองอร่ามขนาดใหญ่ประดับอยู่ทางด้านหลังอนุสาวรีย์ด้วย สำหรับฐานใต้พระบรมรูปมีคำจารึกว่า "พ่อขุนเม็งรายมหาราช พ.ศ.1782 - 1860 ทรงสร้างเมืองเชียงรายขึ้นเป็นเมืองแรกเมื่อ พ.ศ.1805 ทรงสถาปนาอาณาจักรล้านนาไทยให้เป็นปึกแผ่น และทรงสร้างความสามัคคีระหว่างชนชาติไทย"

รู้จักพ่อขุนเม็งราย

พ่อขุนเม็งรายเป็นกษัตริย์องค์ที่ 25 แห่งราชวงศ์ลวะ เป็นโอรสของพญาลาวเม็งและพระนางเทพคำขยาย หรือพระนางอั้วมิ่งจอมเมืองประสูติเมื่อวันอาทิตย์ แรม 9 ค่ำ เดือน 3 ปีจอ พุทธศักราช 1782 และเสด็จสวรรคตที่เมืองเชียงใหม่ในปี พ.ศ.1854 รวมพระชนมายุได้ 72 พรรษา โดยสถูป (กู่) บรรจุพระอัฐิหรือ กู่พญามังรายมหาราช ตั้งอยู่ที่วัดงำเมืองนั่นเอง ทั้งนี้ พ่อขุนเม็งรายได้สร้างเมืองเชียงรายขึ้นบนดอยทอง จากรากฐานเดิมที่เคยเป็นเมืองมาก่อน เมื่อปี พ.ศ.1805 ทรงเป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์มังรายและรวบรวมบ้านเล็กเมืองน้อยเข้าเป็นอาณาจักรล้านนาไทยจนเจริญรุ่งเรืองจวบจนปัจจุบัน

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

วัดพระสิงห์ (วัด)

รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว

อีกวัดคู่บ้านคู่เมืองที่มีความเก่าแก่ของจังหวัดเชียงราย ซึ่งชื่อวัดพระสิงห์นั้น ได้มาจาก พระสิงห์ อันเป็นชื่อของพระพุทธสิหิงค์ พระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะล้านนา ที่คนไทยนับถือกันแพร่หลาย โดยในอดีตเมื่อราวๆ พ.ศ.1924 เจ้าพรหมผู้ครองเมืองเชียงรายได้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์องค์จริงมาใช้เป็นแบบหล่อองค์จำลองขึ้น แล้วประดิษฐานไว้ที่วัดพระสิงห์แห่งนี้ และปัจจุบันวัดพระสิงห์ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ

นอกจากเรื่องราวของพระสิงห์แล้ว สถาปัตยกรรมของวัดเองก็มีความโดดเด่นและน่าสนใจไม่แพ้กัน โดยตัวอุโบสถนั้นสร้างด้วยไม้ทั้งหลัง ตกแต่งสไตล์ล้านนาที่สวยงาม โดยเฉพาะบานประตูขนาดใหญ่ที่แกะสลักเป็นเรื่องราวปริศนาธรรมแทนธาตุทั้ง 4 โดยปรากฏเป็นรูปสัตว์ทั้ง 4 ชนิด คือ ช้างแทนธาตุดิน นากแทนธาตุน้ำ ครุฑแทน ธาตุลม  และสิงโตแทนธาตุไฟ ออกแบบโดย ถวัลย์ ดัชนี และแกะสลักโดยสล่าอำนวย บัวงาม ศิลปินมากฝีมือ ส่วนทางทิศตะวันตกด้านหลังพระอุโบสถมีพระเจดีย์เก่าแก่ที่ได้รับการบูรณะด้วยการทาสีทองอร่ามตา อีกทั้งยังมีรอยพระพุทธบาทจำลองบนแผ่นศิลาซึ่งสันนิษฐานว่าสร้างในสมัยพระเจ้าเม็งรายมหาราช ที่มีจารึกอักษรขอมโบราณ ว่า “กุสลา ธมฺมา อกุสลา ธมฺมา อพยากตา ธมฺมา” ไว้ให้สักการะบูชา

ที่นี่เปิดทุกวัน เวลา 08.00 - 17.00 น.สอบถามเพิ่มเติมโทร.0 5374 5038 หรือ สำนักงาน ททท ภาคเหนือจังหวัดเชียงราย โทร. 0 5371 7433, 0 5370 0051-2  เว็บไซต์ www.facebook.com/watphrasingha

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

วัดร่องขุ่น (วัด)

รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว

“ผมหวังที่จะสร้างงานพุทธศิลป์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของผมให้ปรากฏเป็นงานศิลปะที่ยิ่งใหญ่ชิ้นหนึ่งของโลกมนุษย์นี้ให้ได้ เพื่อประกาศความยิ่งใหญ่ของประเทศชาติของผมไปสู่มวลมนุษยชาติทั้งโลก”

คำกล่าวของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ จิตรกรชาวเชียงรายผู้เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ในปี พ.ศ.2554 ที่กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการปรับปรุงวัดร่องขุ่น อันเป็นวัดบ้านเกิดของท่านเอง และจากวัดเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ 3 ไร่ซึ่งอยู่ในสภาพค่อนข้างเสื่อมโทรมนี้เอง ได้กลายเป็นศาสนสถานที่ได้รับความนิยมสูงสุดแห่งหนึ่งของเชียงราย ด้วยรูปลักษณ์ของวัดสีขาวที่เต็มไปด้วยลวดลายอ่อนช้อย ประณีต และสวยงามเป็นพิเศษในยามต้องแสงอาทิตย์ ได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวนับหมื่นนับแสนคนเดินทางมาชมวัดนี้กันอย่างอุ่นหนาฝาคั่งตลอดทั้งปี

วัดร่องขุ่นนั้นสร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2540 และเป็นเวลาเกือบ 20 ปีแล้วจนถึงวันนี้ แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะเสร็จสมบูรณ์ ในระยะแรกสร้างนั้น อาจารย์เฉลิมชัยได้ลงมือก่อสร้างเองด้วยทุนทรัพย์ส่วนตัว และเงินบริจาคที่จำกัดการให้ บริจาคได้ไม่เกินครั้งละ 10,000 บาท เพื่อแสดงถึงเจตนารมย์ว่าวัดนี้สร้างขึ้นด้วยศรัทธาและเพื่อศิลปะล้วนๆ ไม่ได้ต้องการสิ่งอื่นใด พร้อมกับยกวัดนี้ให้กลายเป็นสมบัติของชาติและพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9

หลังจากนั้นมา ทุกคนต้องตื่นตะลึงในวัดที่มีตัวอุโบสถเป็นสีขาวบริสุทธิ์สะอาด ประดับประดาด้วยช่อฟ้าใบระกาอย่างวิจิตรอลังการ ตามด้วยลวดลายอ่อนช้อยอื่นๆ อีกมากมายเป็นเชิงชั้นลดหลั่นกันลงมา หน้าบันประดับด้วยพญานาคและติดกระจกระยิบระยับ โดยความตั้งใจของผู้สร้างนั้น ต้องการสื่อสัญลักษณ์ต่างๆ ในพุทธศาสนา โดยสีขาวหมายถึง พระบริสุทธิคุณ ส่วนกระจกหมายถึงพระปัญญาธิคุณของพระพุทธเจ้าที่ส่องแสงโชติช่วงชัชวาล นอกจากนี้ตัวพระอุโบสถยังสร้างอยู่บนเนินเตี้ย ๆ ที่มีทะเลสาบใสสะอาดสะท้อนเงาอาคารได้อย่างชัดเจนและทางเดินเข้าอุโบสถที่เป็นสะพานทอดยาวนั้น ก็หมายถึงการเดินข้ามวัฏสงสารมุ่งสู่พุทธภูมิ ส่วนบนของหลังคาได้นำหลักธรรมอันสำคัญยิ่ง คือ ศีล สมาธิ ปัญญา มาแสดงออกในรูปของสัตว์ในช่อฟ้าชั้นต่าง ๆ และภายในอุโบสถยังมีภาพจิตกรรมฝาผนัง รวมทั้งอาคารแสดงภาพวาดที่ตั้งอยู่ภายในบริเวณวัด เพื่อแสดงผลงานของอาจารย์เฉลิมชัยให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมอีกเช่นกัน

ที่นี่เปิดให้ชมทุกวัน 06.30 – 18.00 น. ห้องแสดงภาพเปิดให้เข้าชมวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.00-17.30 น. วันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดราชการ เวลา 08.00-18.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร.0 5367 3579, ททท. สำนักงานเชียงราย โทร.0 5371 7433 และศูนย์บริหารจัดการการท่องเที่ยว จังหวัดเชียงราย โทร.0 5371 5690

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

วัดพระธาตุดอยจอมทอง(วัด)

รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว

วัดพระธาตุดอยจอมทอง เป็นอีกหนึ่งวัดเก่าแก่ที่มีตำนานเคียงคู่มากับประวัติการสร้างเมืองเชียงราย โดยองค์พระธาตุจอมทองแห่งนี้ ไม่เพียงมีชื่อที่เป็นมงคลนามเท่านั้น หากยังเป็นเจดีย์ตามศิลปะแบบล้านนาพุกามที่หุ้มทองคำสวยงามมากทีเดียว

ย้อนตำนานในอดีต

มีการสันนิษฐานว่าวัดแห่งนี้เกิดก่อนที่พ่อขุนเม็งรายจะมาพบดินแดนบริเวณนี้และสร้างเป็นเมืองเชียงราย ในปี พ.ศ.1815 เสียอีก โดยอ้างตามหลักฐานที่ปรากฏในหนังสือพงศวดารโยนกของพระยาประชากรจักร ซึ่งกล่าวว่า เมื่อพระพุทธศาสนามีอายุราวๆ 936 ปีแล้วนั้น มีพระเถระเจ้ารูปหนึ่ง ชื่อว่า พระพุทะโฆษา เป็นชาวโกศล ได้ออกเดินทางไปลังกาทวีป เพื่อนำคัมภีร์พระไตรปิฏกแห่งลังกาทวีปมาสู่สามัญทวีปและพุกามประเทศต่อมาก็ได้นำเข้ามาสู่โยนกนครไชยบุรีศรีเชียงแสนในอาณาจักรไทย โดยในวันจันทร์ขึ้น 5 ค่ำเดือน 6 ปีชวด พ.ศ.1483 ท่านได้นำพระบรมสารีริกธาตุ 3 ขนาดรวม 16 องค์ มาถวายแก่พระเจ้าพังคราช เจ้าเมืองโยนกนาคพันธ์ในขณะนั้น พระองค์ได้แบ่งเป็นพระธาตุขนาดใหญ่หนึ่ง ขนาดกลางสองรวมสามองค์ส่งให้พญาเรือนแก้ว เจ้าเมืองไชยนารายณ์ (บริเวณอำเภอเวียงชัยในปัจจุบัน) ส่วนหนึ่งบรรจุลงมหาสถูปบนดอยทอง ขนานนามว่าพระธาตุดอยจอมทอง ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันกับที่บรรจุลงมหาสถูปบนดอยทองนั้นเอง พระเจ้าพังคราชก็ได้นำพระบรมสารีริกธาตุส่วนที่เหลือ ไปเก็บรักษาไว้ที่ดอยน้อยซึ่งในปัจจุบันเป็นที่รู้จักกันในชื่อวัดพระธาตุจอมกิตตินั่นเองสอบถามเพิ่มเติม โทร.0 5371 6055 นอกจากนี้ สมาคมท่องเที่ยวเชียงรายได้มีการจัดแพ็คเกจทัวร์พระธาตุ 9 จอมสนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0 53601299 

ที่ตั้ง : ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย การเดินทางเริ่มต้นจากห้าแยกพ่อขุนเม็งรายมหาราช เข้าถนนอุตรกิจไปจนถึงสี่แยกพหลโยธิน (สายใน) เลี้ยวขวาผ่านหน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย และสถานีตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสิงหไคล ผ่านองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงรายและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานภาคเหนือ แล้วขับตรงไปจนถึงปากทางเข้าศาลากลางจังหวัด จึงเลี้ยวซ้ายเข้าถนนไตรรัตน์ ผ่านวัดพระแก้ว เลี้ยวขวาผ่านโรงเรียนเชียงรายวิทยาคม เลี้ยวขวาอีกครั้งหนึ่งขึ้นดอยทองผ่านวัดงำเมืองไปประมาณ 350 เมตร ก็จะถึงปากทางขึ้นพระธาตุดอยจอมทอง

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 
 

แม่น้ำกก(แม่น้ำลำคลอง)

รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ แม่น้ำกก

 
 

แม่น้ำกกคือ............แม่น้ำที่คอยหล่อเลี้ยงชาวเชียงราย และมีต้นน้ำอยู่ในบริเวณเทือกเขาชายแดนพม่า ไหลเข้าเขตไทยที่ท่าตอน  ไหลผ่านตัวเมืองเชียงรายไปบรรจบกับแม่น้ำโขงที่บ้านสบกก เชียงแสน มีความยาวรวมทั้งสิ้น 130 กิโลเมตร แม่น้ำแห่งนี้มีความสำคัญต่อวัฒนธรรมล้านนาในอดีต เนื่องจากมีการค้นพบการตั้งเมืองโดยรอบลำน้ำ ปัจจุบันแม่น้ำกกแห่งนี้มีทัศนียภาพที่สวยงามเหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ

กิจกรรมน่าทำ

• การล่องเรือไปตามลำน้ำกก เพื่อชมธรรมชาติสองฟากฝั่งน้ำ โดยเริ่มจากท่าเรือสะพานแม่ฟ้าหลวงในตัวเมืองไปยังบ้านกะเหรี่ยงรวมมิตร หมู่บ้านท่องเที่ยวที่เตรียมกิจกรรมขี่ข้างชมวิถีชาวเขาต้อนรับนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นชาวอีก้อ ชาวลีซอ ลาหู่ ไทลื้อ ม้ง นอกจากนี้ยังมีการแสดงวัฒนธรรมชนเผ่า ร้านจำหน่ายของที่ระลึก และโฮมสเตย์ไว้บริการ หากมากันเป็นหมู่คณะ ควรติดต่อล่วงหน้าอย่างน้อย  3 วัน ที่ อบต.แม่ยาว  โทร.0 5373 7359-11 อัตราค่าบริการขี่ช้างขึ้นอยู่กับระยะทางส่วนค่าเรือนั้น ค่าเช่าเรือเหมาลำ 900-1000 บาท นั่งได้ 8 คน ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ  1 ชั่วโมง

• พายคายักอันเป็นกิจกรรมการผจญภัยไปตามลำน้ำกกที่นักท่องเที่ยวหลายคนนิยมชมชอบ

• การอาบน้ำแร่-แช่น้ำพุร้อน เพราะตลอดเส้นทางลำน้ำกกแห่งนี้มีแหล่งอาบน้ำแร่น่าสนใจ เช่น บ่อน้ำร้อนห้วยหมากเหลี่ยม น้ำพุร้อนโป่งพระบาท และน้ำพุร้อนผาเสริฐซึ่งใกล้กับหมู่บ้านกะเหรี่ยงรวมมิตร

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 
 

ดอยหัวแม่คำ(ดอยและภูเขา)

รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว

พบกับความงดงามของดอยหัวแม่คำ...ที่นอกจากจะเป็นดอยสูงซึ่งมีอากาศดี ทิวทัศน์สวยแล้ว ที่นี่ยังมีวัฒนธรรมชาวเขา ให้คุณได้เรียนรู้อย่างน่ารื่นรมย์ ดอยหัวแม่คำนั้นมีความสูงราวๆ 1,850 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งจากบนยอดดอยแห่งนี้ ในช่วงเวลาพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า คุณสามารถมองเห็นทิวทัศน์แห่งขุนเขาสลับซับซ้อนสวยงาม ราวกับฉากในจินตนาการ นอกจากนี้ในช่วงเดือนพฤศจิกายนของทุกปี ดอยหัวแม่คำยังเหลืองอร่ามด้วยทุ่งดอกบัวตอง สีเหลืองที่พากันบานสะพรั่ง ดึงดูดนักเดินทางจากทุกสารทิศให้เข้ามาถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึกอยู่เสมอ

ไฮไลท์แห่งดอยหัวแม่คำ

• หมู่บ้านหัวแม่คำ หมู่บ้านชาวเขาอันเป็นสถานที่จัดงานวัฒนธรรมชาวดอยดอกบัวตองบานที่หัวแม่คำซึ่งจัดเป็นประจำทุกปีช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้รับประทานอาหารแบบขันโตก ชมการประกวดธิดาหัวแม่คำ ทำบุญตักบาตร ชมดอกบัวตอง และสนุกสนานกับวัฒนธรรมชนเผ่า ส่วนอีกเทศกาลหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กัน คือในช่วงวันตรุษจีนของทุกปี ชาวลีซอจะจัดงานประเพณีกินวอ ซึ่งเปรียบเสมือนวันขึ้นปีใหม่ โดยในวันนั้นชาวลีซอแต่งกายสวยงาม มีการกินเลี้ยง เต้นระบำ 7 วัน 7 คืน

• วนอุทยานดอยหัวแม่คำ อยู่ห่างจากหมู่บ้านหัวแม่คำประมาณ 2 กม. เป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุดและสูงที่สุด

• ศูนย์ส่งเสริมเกษตรที่สูงหัวแม่คำ เป็นสถานที่เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการปลูกไม้เมืองหนาว และมีการจำหน่ายจ่ายแจกพันธุ์พืชต่างๆ

• น้ำตกหัวแม่คำใหญ่ อยู่ห่างจากหมู่บ้านไม่ไกลนัก แต่ต้องเดินเท้าเข้าไปชม น้ำตกแห่งนี้เป็นน้ำตกขนาดกลางที่มีน้ำใสและเย็นจัด และยังเป็นแหล่งน้ำสำคัญของหมู่บ้าน โดยบริเวณน้ำตกนั้นมีที่พักบริการในราคาย่อมเยา

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ทะเลสาบเชียงแสน (เขื่อน พื้นที่อนุรักษ์ ทะเลสาบ)

รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว

สำหรับนักดูนกตัวยงแล้วล่ะก็ สวรรค์ของการดูนกในเมืองไทย หนึ่งในนั้นก็คือ ทะเลสาบเชียงแสน หรืออีกชื่อหนึ่งเรียกว่า “เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหนองบ่งคาย” แห่งนี้ เนื่องจากที่นี่เป็นถิ่นอาศัยของนกน้ำและนกทุ่งจำนวนมาก โดยเฉพาะในฤดูหนาวจะมีนกอพยพจากต่างถิ่นจำนวนมหาศาล รวมทั้งนกพันธุ์หายากมากมาย มารวมตัวกันโบกสะบัดปีกโปรยความสวยงามเหนือผืนทะเลสาบแห่งนี้ ซึ่งมีกิจกรรมต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินมากมาย ได้แก่ 

• เฝ้าดูนกทุ่งและนกน้ำนานาชนิด อันเป็นกิจกรรมไฮไลท์ที่นักดูนกสนใจ เพราะที่นี่คือแหล่งรวมของนกเป็ดน้ำหลากหลายสายพันธุ์และมีจำนวนมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย ตัวอย่างนกที่พบเจอได้ที่นี่ เช่น นกโปชาดหลังขาว เป็ดดำหัวสีน้ำตาล เป็นต้น และเมื่อถึงฤดูหนาวเมื่ออากาศเย็นสบาย มีลมมรสุมจากทางตอนเหนือของประเทศ จะมีฝูงนกมากมายบินมาอาศัยอยู่ที่นี่หลบลมหนาว เช่น เป็ดไบคาล เป็ดหัวเขียว เป็ดพม่า เป็ดปากสั้น เป็ดเทาพันธุ์อินเดียซึ่งหลายชนิดหายากและมีสีสันสวยงาม ทุกคนจะได้สนุกกับอากัปกิริยาอันน่ารัก ของนกเหล่านั้น ไม่ว่าจะโบยบินไปมาเป็นฝูง จิกหาอาหารตามพื้นดิน หรือทอดตัวอยู่ในน้ำนิ่งของทะเลสาบ 

• พักผ่อนหย่อนใจไปกับความสวยงามโดยรอบ เช่น เดินเล่นชมธรรมชาติ ปั่นจักรยานชมวิว และพายเรือแคนูรับลมในทะเลสาบ ซึ่งไฮไลท์น่าจะอยู่ที่ในตอนเย็นเมื่อพระอาทิตย์ดวงโตสีแดงค่อยๆ คล้อยลงลับหายไปในเส้นขอบฟ้าตัดกับผืนน้ำ เป็นภาพที่สวยงามน่าประทับใจทีเดียว 

ช่วงเวลาเหมาะสม 

จริงๆ แล้วทะเลสาบเชียงแสนเป็นสถานที่ที่สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่สำหรับนักดูนกนั้นจะนิยมมาเยือนที่ในช่วงฤดูหนาวอันเป็นช่วงเวลาที่มีนกอพยพมาอาศัยอยู่ที่นี่จำนวนมาก

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สามเหลี่ยมทองคำ (แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอื่นๆ)

รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว

     ดินแดนที่นักท่องเที่ยวจะได้ชมวิวสามประเทศ ได้แก่ ไทย ลาว และเมียนมาร์ ตรงบริเวณสบรวก สามเหลี่ยมทองคำในอดีตนั้นคือแหล่งค้ายาเสพติดระดับโลก แต่ปัจจุบันได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ที่แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวไปเยือนกันมากมาย

กิจกรรมน่าทำ

• นมัสการพระเชียงแสนสี่แผ่นดิน หรือ พระพุทธนวล้านตื้อ ประทับนั่งบนเรือแก้วกุศลธรรมขนาดใหญ่ ประดิษฐานกลางแจ้ง องค์พระนั้นสร้างขึ้นด้วยทองสัมฤทธิ์ขนาดใหญ่

• ชมวิวสามประเทศบริเวณสบรวก

• นั่งเรือหางยาวล่องไปตามลำน้ำเพื่อชมทิวทัศน์สามเหลี่ยมทองคำในอีกมุมมอง โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที อีกทั้งยังสามารถเช่าเรือจากสบรวกไปเชียงแสนและเชียงของได้ โดยใช้เวลา 40 นาที และ 1 ชั่วโมงครึ่ง ตามลำดับ

• ถ่ายภาพที่ระลึกกับซุ้มซึ่งมีฉากหลังที่สวยงาม

• ช็อปปิ้งในร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึกที่ตั้งเรียงรายตลอดแนวทั้งเสื้อผ้า เครื่องประดับ ของที่ระลึก และสินค้าจากประเทศจีน

เดินทางโดยรถยนต์

ใช้ทางหลวงหมายเลข 10 เมื่อผ่านอำเภอแม่จันเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 1016 (แม่จัน-เชียงแสน) ระยะทาง 29 กิ โลเมตร ก่อนถึงกำแพงเมืองเกาเชียงแสนมีสี่แยกบายพาส เลี้ยวซ้ายมีป้ายบอกทางไปสามเหลี่ยมทองคำ หรือเลือก ทางตรงไปผ่านอำเภอเชียงแสน จากนั้นเลี้ยวซ้ายไปตามถนนเลียบน้ำโขงอีก 12 กิโลเมตร

เดินทางโดยรถประจำทาง

สามารถใช้บริการถบัสสีเขียวสายเชียงราย เชียงแสน จากสถานีขนส่งเชียงใหม่ จากนั้นต่อรถสองแถว สายเชียงราย- สบรวก ที่หน้าตลาดเชียงแสน

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

วนอุทยานภูชี้ฟ้า

(อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า)

รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว

 

ภาพของภูเขาสูงที่มีแสงอาทิตย์สีทองสาดจับยามเช้าตรู่ที่มีผืนทะเลหมอกสีขาวโพลนสุดอลังการอยู่เบื้องล่าง คือภาพของภูชี้ฟ้าที่ได้กลายสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำของจังหวัดเชียงราย โดยเฉพาะกับนักเดินป่าท่องธรรมชาติแล้ว ครั้งหนึ่งในชีวิตของพวกเขาต้องได้มาเยือนภูสูงแห่งนี้เลยทีเดียว วนอุทยานภูชี้ฟ้าอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางราวๆ 1,200 – 1,628 เมตร โดยในอดีตนั้นเคยเป็นสมรภูมิรบ ที่เกิดจากความขัดแย้งทางความคิดทางการเมือง ระหว่างกลุ่มคนยึดมั่นในแนวทางคอมมิวนิสต์ และได้จัดตั้งพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยขึ้น กับเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ต้องเข้าปราบปรามจนเกิดเหตุการณ์นองเลือดอันน่าสลดใจ ครั้นเรื่องราวต่าง ๆ ได้คลี่คลายหวนคืนสู่สันติสุขอีกครั้ง ความงดงามของภูชี้ฟ้าก็เริ่มเป็นที่กล่าวขาน จากภาพของหน้าผาสูงที่ยื่นล้ำเข้าไปในฝั่งลาว และเป็นจุดที่สูงที่สุด ในดอยผาหม่นจนได้รับฉายาว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุด และมีสภาพอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี โดยเฉพาะใน ช่วงฤดูหนาวนั้น ที่นี่จะหนาแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาสัมผัสความหนาว ชมทะเลหมอกยามเช้า และดื่มด่ำความสวยงามของดอกชงโคป่าสีขาวที่ออกดอกบานสะพรั่ง ซึ่งบริเวณภูชี้ฟ้าแห่งนี้ สามารถกางเต็นท์พักแรมได้ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ วนอุทยานภูชี้ฟ้า (หัวหน้าฯ 08 1883 4510) หรือ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว อำเภอเทิง ที่ว่าการ อำเภอเทิง โทร. 0 5379 5345

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ดอยแม่สลอง

(ดอยและภูเขา)

รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว

พบกับความงดงามของดอยหัวแม่คำที่นอกจากจะเป็นดอยสูงซึ่งมีอากาศดี ทิวทัศน์สวยแล้ว ที่นี่ยังมีวัฒนธรรมชาวเขา ให้คุณได้เรียนรู้อย่างน่ารื่นรมย์ ดอยหัวแม่คำนั้นมีความสูงราวๆ 1,850 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งจากบนยอดดอยแห่งนี้ ในช่วงเวลาพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า คุณสามารถมองเห็นทิวทัศน์แห่งขุนเขาสลับซับซ้อนสวยงาม ราวกับฉากในจินตนาการ นอกจากนี้ในช่วงเดือนพฤศจิกายนของทุกปี ดอยหัวแม่คำยังเหลืองอร่ามด้วยทุ่งดอกบัวตอง สีเหลืองที่พากันบานสะพรั่ง ดึงดูดนักเดินทางจากทุกสารทิศให้เข้ามาถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึกอยู่เสมอ

ไฮไลท์แห่งดอยหัวแม่คำ

• หมู่บ้านหัวแม่คำ หมู่บ้านชาวเขาอันเป็นสถานที่จัดงานวัฒนธรรมชาวดอยดอกบัวตองบานที่หัวแม่คำซึ่งจัดเป็นประจำทุกปีช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้รับประทานอาหารแบบขันโตก ชมการประกวดธิดาหัวแม่คำ ทำบุญตักบาตร ชมดอกบัวตอง และสนุกสนานกับวัฒนธรรมชนเผ่า ส่วนอีกเทศกาลหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กัน คือในช่วงวันตรุษจีนของทุกปี ชาวลีซอจะจัดงานประเพณีกินวอ ซึ่งเปรียบเสมือนวันขึ้นปีใหม่ โดยในวันนั้นชาวลีซอแต่งกายสวยงาม มีการกินเลี้ยง เต้นระบำ 7 วัน 7 คืน

• วนอุทยานดอยหัวแม่คำ อยู่ห่างจากหมู่บ้านหัวแม่คำประมาณ 2 กม. เป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุดและสูงที่สุด

• ศูนย์ส่งเสริมเกษตรที่สูงหัวแม่คำ เป็นสถานที่เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการปลูกไม้เมืองหนาว และมีการจำหน่ายจ่ายแจกพันธุ์พืชต่างๆ

• น้ำตกหัวแม่คำใหญ่ อยู่ห่างจากหมู่บ้านไม่ไกลนัก แต่ต้องเดินเท้าเข้าไปชม น้ำตกแห่งนี้เป็นน้ำตกขนาดกลางที่มีน้ำใสและเย็นจัด และยังเป็นแหล่งน้ำสำคัญของหมู่บ้าน โดยบริเวณน้ำตกนั้นมีที่พักบริการในราคาย่อมเยา

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

พระตำหนักดอยตุงและสวนแม่ฟ้าหลวง(ดอยและภูเขา)

รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว

ดื่มด่ำสถาปัตยกรรมอันงดงามของ “พระตำหนักดอยตุง” หรือ “พระตำหนักสมเด็จย่า” ที่ปลูกสร้างขึ้นมาในกลิ่นอายล้านนาผสมผสานกับความเรียบง่าย และรายล้อมด้วยต้นไม้ดอกไม้นานาพันธุ์ที่เติมเสน่ห์ ให้สถานที่แห่งนี้มีความร่มรื่นและน่ารื่นรมย์ พระตำหนักดอยตุงนั้น เกิดขึ้นโดยพระราชดำริของ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีที่ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์สร้าง “บ้านหลังแรก” ของพระองค์หลังนี้ขึ้นมา เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ.2530 เพื่อที่จะได้ทรงแปรพระราชฐานมาทรงงานที่นี่

ทั้งนี้ พระตำหนักปลูกสร้างอยู่บนเนินเขาที่เผยให้เห็นทิวทัศน์กว้างไกลสุดตา โดยมีลักษณะเด่นทางสถาปัตยกรรมเป็นศิลปะแบบล้านนา ที่เป็นบ้านปีกไม้ มีกาแล ผสมกับลักษณะบ้านพื้นเมืองของชาวสวิตเซอร์แลนด์ที่เรียกว่า ชาเลต์ (Swiss Chalet) โดยมีไม้แกะสลักเป็นเชิงชายลายเมฆไหลอ่อนช้อย เน้นความเรียบง่ายแต่ใช้สอยได้อย่างครบครัน นอกจากนี้สิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจเป็นพิเศษคือ เพดานดาวที่มีตำแหน่งของดาวเรียงกันเหมือนเช่นในวันพระราชสมภพ ที่นี่เปิดให้เข้าชมทุกวันเวลา 07.00-17.30 น. ค่าเข้าชมสำหรับบุคลทั่วไป 90 บาท ผู้สูงอายุและนักเรียนนักศึกษา 45 บาท (โปรดแสดงบัตร)

ทิปส์ท่องเที่ยว

• นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยี่ยมชมนั้นสามารถเข้าชมห้องบรรทมและห้องทรงงานได้ แต่ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปใด ๆ

• มีเจ้าหน้าที่นำชมเป็นรอบ ๆ ละ 20 นาที

สวนแม่ฟ้าหลวง อยู่ด้านหน้าพระตำหนักดอยตุง มีพื้นที่ 10 ไร่ เป็นสวนดอกไม้เมืองหนาว อาทิ ดอกซัลเวีย    พิทูเนีย บีโกเนีย กุหลาบ ดอกลำโพง ไม้มงคลต่าง ๆ ไม้ยืนต้น และซุ้มไม้เลี้อยมากกว่า 70 ชนิด รูปปั้นต่อเนื่อง ฝีมือของคุณมีเซียม    ยิบอินซอย เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.30-18.00 น. ค่าเข้าชมคนละ 90 บาท

หอแห่งแรงบันดาลใจ เป็นอาคารแสดงนิทรรศการที่บอกเล่าถึงการที่สมาชิกราชสกุลมหิดลแต่ละพระองค์ทรงเป็นแรงบันดาลใจให้กันและกัน โดยเรื่องราวจะสะท้อนปรัชญาการทรงงานและผลงานอันเกิดจากพระวิสัยทัศน์อันยาวไกลของทั้งห้าพระองค์ ที่ทำให้ประชาชนชาวไทยได้มีโอกาสในชีวิตที่ดีขึ้น เพื่อให้เกิดเป็นแรงบันดาลใจผู้ที่เข้าชมได้นำไปปฏิบัติเพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวม มีห้องจัดแสดงนิทรรศการ 7 ห้อง  เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. ค่าเข้าชมคนละ 50 บาท

นอกจากนั้นยังมีร้านขายของที่ระลึก เสื้อผ้าไหม ผลิตภัณฑ์จากโครงการหลวง ทั้งผักผลไม้ ดอกไม้  พันธุ์ไม้ต่าง ๆ ให้ซื้อกลับเป็นของฝาก  นักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้าชมทั้ง พระตำหนักดอยตุง สวนแม่ฟ้าหลวง และหอแห่งแรงบันดาลใจ สามารถซื้อบัตรรวม ราคา 190 บาท ผู้สูงอายุและนักเรียนนักศึกษา 90 บาท ซุ้มจำหน่ายบัตรเปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 06.30-18.00 น. สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โครงการพัฒนาดอยตุง โทร.0 5376 7015-7, 0 5376 7003 หรือเว็บไซต์ http://www.doitung.org

ที่ตั้ง : ตำบลแม่ฟ้าหลวง อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย หากเดินทางจากตัวเมืองเชียงรายใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1 (เชียงราย - แม่สาย) ระยะทางประมาณ 45 กิโลเมตร ถึงบริเวณ กม. 870-871 มีป้ายบอกทางแยกซ้ายไปพระตำหนักดอยตุงเป็นระยะทางอีก 17 กิโลเมตร

 มีรถสองแถวขึ้นดอยตุง ค่าโดยสารราคาเหมา ไป-กลับ 600 บาท/คัน (นั่งได้ 10 คน) ติดต่อบริษัท ท่องเที่ยวดอยตุง

โทร.0 5366 7433  และดอยตุงลอด์จ โทร. 0 5376 7067

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 
 

#ขอบคุณข้อมูลและภาพทั้งหมดจาก เว็ปไซด์ ททท.

#เที่ยวกับAKสนุก,ประหยัด,คุ้มค่า,สะดวก,จริงใจ

#ทำเรื่องเที่ยวให้เป็นเรื่องง่าย ใครก็เที่ยวได้เที่ยวกับเราสิคะAK

#AK

 
       
 

 

โครงการพิเศษสำหรับสมาชิก

eae 04

     
 akm    AK HOTELS card RED OK
 A K Hotels Exclusive Club     AK Hotels Privilege Club

 eae 04

     
  logo akmtravel  
       
แม่ฮ่องสอน

            ปาย....เป็นเมืองเล็กๆ ทางตอนเหนือของจังหวัดแม่ฮ่องสอน...

กระบี่

  กระบี่.......           นอกจากกระบี่จะเป็นเมืองน่าอยู่ ผู้คนน่ารัก (มาก) แล้ว...

กระบี่

                                เที่ยวกระบี่...

พัทยา / ชลบุรี

      พัทยา มีมากกว่าทะเล 4 บรรยากาศ หลากสไตล์...

เชียงใหม่

    ทริปนี้ ที่เชียงใหม่....ดินแดนแห่งขุนเขาและสายหมอก พื้นที่อุดมสมบูรณ์ ธรรมชาติที่สวยงาม "เชียงใหม่ ไนท์...

กระบี่

      “ เกาะลันตา ”     เป็นชื่อเกาะขนาดใหญ่ มีรูปร่างเรียวยาว พื้นที่ 472 ตารางกิโลเมตร...

       

travel

logo A K Reward Point

สะสมคะแนน

A K Reward Point

ยิ่งใช้ ยิ่งได้ ยิ่งคุ้ม ครบทุกไลฟ์สไตล์

ของการพักผ่อน รับคะแนนสะสม

เมื่อใช้จ่ายผ่าน เอ เค

......................................

Travel
รายการของรางวัลแลก
คะแนนสะสมในหมวด ท่องเที่ยว

......................................

Voucher
รายการของรางวัลแลก
คะแนนสะสมในหมวด บัตรกำนัล

003
แนะนำ สถานที่ท่องเที่ยว กรุงเทพมหานครฯ
แนะนำ สถานที่ท่องเที่ยว เชียงราย
แนะนำ สถานที่ท่องเที่ยว เชียงใหม่
ส่วนลด สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศ
ส่วนลด บริการรถเช่า
ส่วนลด ล่องเรือแม่น้ำเจ้าพระเจ้า
ส่วนลด สนามกอล์ฟ
ส่วนลด สปา
ส่วนลด บริการสำรองตั๋วเครืองบิน

เลขที่ใบอนุญาต

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า Trustmarkthai
ttt 2

Special

A K Hotels Exclusive Club
A K Hotels Privilege Club
AK Reward Point
Review Up Point

จำนวนผู้เข้าชม

25023503
Today
Yesterday
This Week
Last Week
This Month
Last Month
All days
3395
28548
69304
24913592
64633
476400
25023503

Your IP: 52.70.240.171
thAsia/BangkokFri, 05 Jul 2024 01:58:37 +0700vAsia/BangkokFri, 05 Jul 2024 01:58:37 +0700 ICT5807Asia/Bangkok: %2024-%07-%05 %01:%Jul:%th

++ Hot !! Promotion ++

Duo Special

logologo akmtravel

HpvHex